คุยเฟื่องเรื่องพระราม 3

พระราม 3 ย่านที่ความสะดวกและความสงบอยู่ใกล้กันเพียงแค่ย้ายสายตามอง เราจะเห็นเหล่าแท่งตึกสูงที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความเป็นย่านธุรกิจซึ่งอยู่ชิดติดกับเขต CBD อย่างสาทร สีลมเพียงแค่ก้าวไม่กี่ก้าว พร้อมกันนั้นเราก็ยังสามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ทางธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สร้างความสบายตาสบายใจเมื่อไรก็ได้ด้วย ย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังไม่มีถนนเส้นนราธิวาส และถนนสาธุประดิษฐ์ยังเป็นกรวดหินอยู่ ละแวกพระราม 3 นี้ถูกบอกเล่ากล่าวขานต่อๆกันว่าเป็นย่านที่มีสวนลิ้นจี่ สวนลำไยแสนอร่อย และตอนนี้สวนผลไม้แปลงสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือสวนครูหวาน สวนผลไม้เก่าแก่กว่า 200 ปีที่อยู่ละแวกซอยนนทรี พระราม 3 ใกล้สะพานภูมิพล ใกล้ๆกันนี้ที่ใต้สะพานภูมิพลนี้เรายังสามารถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปเที่ยวฝั่งสมุทรปราการได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วย

ต่อไปนี้คือเรื่องเล่าทั้งเก่าใหม่จากชาวพระราม 3 ที่เราอยากชวนให้ตามไปทำความรู้จักอีกมุมของกรุงเทพให้ดียิ่งขึ้นกันอีกสักหน่อย

สะพานกรุงเทพ : สะพานแห่งชีวิตของชาวพระราม 3

สะพานโยกเพียงแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังเปิด-ปิดได้ และแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ที่เปิดใช้มาเกือบ 60 ปีแล้ว (เริ่มเปิดใช้พ.ศ. 2502)

“เมื่อก่อนนอกจากโดยสารเรือข้ามฝั่ง ก็มีแค่สะพานกรุงเทพนี่ล่ะ ที่เชื่อมพระราม 3 กับฝั่งธนบุรี จำได้ว่าสะพานพระราม 3 เพิ่งมีตอนที่อยู่ม.4 นี้เอง เมื่อก่อนบ้านอยู่พระราม 3 และมีบ้านป้าอยู่ฝั่งธนก็จะได้ใช้สะพานนี้บ่อย ทุกวันนี้จะมีภาพเก่าๆผุดขึ้นมาเวลาที่ผ่านสะพานกรุงเทพ ตั้งแต่ภาพตัวเองนั่งอยู่บนรถเมล์ นั่งรถแท็กซี่กับแม่ตอนเด็กๆแล้วเห็นคนมาตกปลา เห็นคนมาถ่ายรูปกัน หรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่ขับรถเองแล้วก็ยังคิดถึงภาพเก่าอยู่เสมอ มันเหมือนมันมีความผูกพันกับสะพานนี้มากมาย และสิ่งแรกที่คิดถึงเวลาพูดถึงสะพานกรุงเทพ คือ สะพานนี้เปิดได้ ตอนเด็กๆก็จะไปรอดูกันกับน้องสาว เขาจะเปิดเวลาที่มีเรือลำใหญ่ๆผ่าน”

คุณรุ่งนภา คาน อาจารย์ที่สมัยเด็กเคยอาศัยอยู่ย่านพระราม 3 แล้วข้ามสะพานแขวนมาอยู่ฝั่งสมุทรปราการ

เกือบ 60 ปีแล้วที่สะพานกรุงเทพ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 3 (ถัดจากสะพานพระราม 6 และสะพานพระพุทธยอดฟ้า) ยังคงเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างสี่แยกถนนตก กับสี่แยกบุคคโล และปิด-เปิดสะพานเพื่อให้เรือขนาดใหญ่อย่างเรือรบหรือเรือขนส่งสินค้าสามารถเข้า-ออกได้ และกลายเป็นอีกความพิเศษที่ทำให้ชาวพระราม 3 รอที่จะได้เห็นสะพานแห่งนี้เปิดขึ้นด้วยตาตัวเองสักครั้ง โดยช่วงเวลาที่เปิดสะพานนั้นมักจะเป็นช่วงราวๆ 9 โมงเช้า และเมื่อสะพานเปิดก็ต้องต้องปิดการจราจรระหว่าง 2 ฝั่งอย่างน้อยประมาณ 15 นาที

ทำให้ภายหลัง ช่วงพ.ศ.2543 เกิดสะพานพระราม 3 หรือสะพานกรุงเทพ 2 ที่สร้างคู่ขนานขึ้นมาเพื่อลดปัญหาเรื่องการจราจร โดยสะพานพระราม 3 นี้เป็นสะพานแบบอสมมาตรที่มีความสูงกว่าสะพานกรุงเทพถึงเกือบ 5 เท่า (สะพานกรุงเทพสูงจากระดับน้ำทะเล 7.50 เมตร สะพานพระราม 3 สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางถึง 34 เมตร) นอกจากนี้สะพานกรุงเทพยังมีชีวิต และมีสีสันจากผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจทั้งบนและใต้สะพาน เราจะได้เห็นคนตกปลา นักวิ่ง นักปั่นจักรยาน อีกทั้งยังเป็นมุมมหานิยมของช่างภาพที่จะมาเก็บภาพกรุงเทพฯยามค่ำคืนผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา (แต่แนะนำว่าควรมากันเป็นกลุ่มเพื่อความปลอดภัย)

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

สะพานกรุงเทพ
Opening Hours: ทุกวัน 24 ชั่วโมง
Location: ถนนมไหสวรรย์ แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ

[/su_tab] [/su_tabs]

 

เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 : ที่ไปเที่ยวแห่งแรกๆของเด็กย่านพระราม 3

21 ปีแล้วที่เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 เปิดบริการ จากศูนย์การค้าวินเทจประจำย่าน กลายเป็นศูนย์การค้าที่รีโนเวทจนชิคและใกล้ชิดกับชาวพระราม 3 ยิ่งขึ้น

“เอาจริงๆ เซ็นทรัล พระราม 3 คือที่เที่ยวแรกๆ เลยนะ ด้วยความที่ใกล้ทั้งบ้าน ใกล้ทั้งโรงเรียน เอะอะก็ดูหนังฉลองกับเพื่อน ตอนเด็กๆคือโก้สุดแล้วที่นี่ แล้วก็ยังอยู่ใกล้บ้านมาก ใกล้มากจนใส่ชุดนอนมาเที่ยวก็ยังได้เลย พอโตขึ้นก็เริ่มมาเที่ยวน้อยลง อยากจะไปเที่ยวที่ไกลขึ้น พอช่วงที่เซ็นทรัล พระราม 3 รีโนเวทเสร็จได้กลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกเราเปลี่ยนเลยนะ อย่างแรกคือต้องเปลี่ยนชุดก่อนถ้าจะมาที่นี่ (หัวเราะ) จะใส่รองเท้าแตะหรือชุดนอนมาไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้คือดีมาก มีร้านหลากหลายแล้วยังเป็นร้านที่ดีๆทั้งนั้น ชั้นบนยังมี THINK SPACE ด้วย และที่ประทับใจสุดเลยคือเรื่องร้านอาหารเราเป็นคนชอบหาของกิน ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์เลย”

คุณฑิตยา อภิวันทนกุล ครีเอทีฟชาวพระราม 3

ในความทรงจำของชาวพระราม 3 เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 เป็นศูนย์การค้าที่เดินง่ายมากๆ มีร้านค้าไม่เยอะนัก กลุ่มคนที่มาส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่แวะมาจับจ่ายซื้อของ และชอบไปช้อปปิ้งซูเปอร์มาร์เก็ตข้างล่าง เพราะมีข้าวของให้เลือกซื้อค่อนข้างมาก หลังจากที่แบรนด์เสื้อผ้ายูนิโคลได้มาเปิดที่นี่ไม่นาน เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 ก็ได้รีโนเวทครั้งใหญ่ และเปิดตัวอีกครั้งไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จุดแรกที่สะดุดตาก่อนเลยก็คือ บริเวณหน้าศูนย์การค้า Facade ที่ใช้ไม้ต่อแถววางแนวเป็นระแนงแนวตั้งทำให้ดูสวยงามอบอุ่นเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น และภายในศูนย์การค้ายังเติมพื้นที่สีเขียวและวัสดุจากธรรมชาติเอาไว้ตามมุมต่างๆอีกด้วย มี Co-working Space ให้เหล่ามนุษย์เวิร์คกิ้งสามารถนั่งทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น และที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากเลยก็คือมีร้านอาหารใหม่ๆและแบรนด์แฟชั่นเพิ่มขึ้นจนไม่ต้องขับรถไปศูนย์การค้าขนาดใหญ่ย่านใกล้เคียงเลย

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3
Opening hours: จ.-พฤ. 10:30-21:00 น. ศ. 10:30-22:00 น. ส.-อา. 10:00-22:00 น.
Location: 79/3 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ | 0-2649-6000
[su_gmap width=”1600″ address=”เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3″] [/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

 

N22 : พื้นที่ทางศิลปะร่วมสมัยที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในย่านพระราม 3

1 ใน 10 พื้นที่สำหรับศิลปะร่วมสมัยที่ดีที่สุดในอาเซียน The Guardian ประเทศอังกฤษ โกดังร้างที่ปรับปรุงใหม่จนกลายเป็นพื้นที่ศิลปะที่เปิดให้คนที่สนใจเข้ามาร่วมสังสรรค์ความสร้างสรรค์ใหม่ๆร่วมกัน

“ตรงนี้เป็นพื้นที่โกดังให้เช่าและมีพื้นที่ให้เช่าค่อนข้างเยอะ ทางพี่เต้ (คุณจิรัสย์ รัฐวงศ์จิรกุล)
ผู้จัดการของ Gallery VER ก็เลยอยากหาเพื่อนในวงการศิลปะมาแชร์พื้นที่กัน เพื่อให้ตรงนี้เป็น art community ก็เลยกลายเป็น N22 ขึ้นมา ยุคแรกเริ่มย้อนกลับไปเมื่อเกือบๆ 3 ปีก่อน จะมีกันแค่ 3 สเปช คือ Studio Be Takerng Pattanapas สตูดิโอของอาจารย์บีซึ่งอยู่ด้านหน้าสุด ถัดมาเป็น Tentacles แล้วก็ Gallery VER แล้วก็ค่อยๆมีคนอื่นๆตามมาอย่าง CARTLE ART SPCAE, ARTIST+RUN Gallery ตอนนี้มีทั้งหมด 9 สเปช อยู่ในโกดัง 7 สเปช และเพิ่งมาใหม่อยู่ชั้น 3 ของตึกด้านหน้าอีก 2 สเปช และในโกดังนี้ก็ไม่ได้เป็น สตูดิโอ แกลอรี่หรืออาร์ตสเปชเพียงทั้งหมด ยังมีบริษัทน้ำปลามาเช่าโกดังเก็บน้ำปลาและมีบริษัทชิปปิ้งที่มาเช่าอยู่ด้วย”


“ถ้าเดินดูก็จะเห็นว่าคาแรกเตอร์ของแต่ละสเปชก็จะแตกต่างกัน อย่าง Tentalces ก็จะเป็นพื้นที่ที่ซัพพอร์ตศิลปินรุ่นใหม่ ทั้งด้านงานอาร์ต โปรเจกต์ นิทรรศการ กิจกรรมเวิร์คชอปอย่างทุกวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะมี Art & Craft Workshop Residency Program ที่เราเปิดให้ศิลปินต่างชาติสมัครเข้ามาพำนักที่สเปชเพื่อทำงานและพัฒนางานอาร์ต โปเจกต์ของเขา แล้วก็ยังเป็นพื้นที่ช่วยสนับสนุนจำหน่ายผลงานศิลปะของศิลปินรุ่นใหม่ด้วย

ส่วน CARTLE ART SPCAE ก็จะแสดงงานที่เกี่ยวกับแนวการเมืองเป็นหลัก หรือ ARTIST+RUN Gallery ของคุณอังกฤษ อัจฉริยโสภณ งานที่มาจัดแสดงที่นี่จะเป็นงาน Abstract painting (จิตรกรรมนามธรรม) แต่ปีที่แล้วก็มีงานของคุณอังกฤษจัดแสดงที่ Gallery VER ด้วย เวลาที่เราจัดกิจกรรม เราก็จะจัดพร้อมๆกัน เพื่อให้เวลาที่คนมาดูงานจะได้มาทีเดียว และตอนเปิดงานก็จะมีปาร์ตี้บาร์บีคิวสนุกๆกัน”

คุณภัคจิรา ชาติปัญญา Manager ของ Tentacles Gallery

‘N22’ พื้นที่ศิลปะแห่งนี้พร้อมโอเพ่นให้ทุกคนที่สนใจงานอาร์ตอย่างไร้ขอบจำกัด นอกจากได้ซึบซับทราบซึ้งกับงานศิลปะจากทั้ง 4 แกลอรี่ บางทีคุณอาจจะเห็นภาพระหว่างการทำงานจากสตูดิโอศิลปินที่มาเช่าพื้นที่อยู่ในโกดังแห่งนี้ด้วย ในปีนี้ N22 ได้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่จัดแสดงงานในเทศกาลภาพถ่าย Photo Bangkok 2018 และเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Bangkok Biennial ที่กำลังมีขึ้นอยู่ในช่วงนี้ด้วย

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

N22
Opening hours: พ.-อา. 12.00-18.00 น.
Location:2198/10-11 ซอยนราธิวาส 22 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
www.facebook.com/N22-140173469762568/
[su_gmap width=”1600″ address=”N22″] [/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

 

Anna & Chalie’s Cafe : ตำนานแห่งความอร่อยของชาวพระราม 3

แจ้งเกิดที่ศาลาแดง แต่โตและเป็นร้านคลาสสิกของย่านพระราม 3 ขึ้นลิสต์เป็นร้านโปรดอันดับต้นๆของรุ่นคุณพ่อคุณแม่ และเหล่านักชิมรุ่นเก๋า…มากกว่า 10 ปีที่เมนูแกงเขียวหวานไก่โรตี หมึกผัดไข่เค็ม และทอฟฟี่บัฟนอฟฟี่ ทำให้ใครที่ได้ชิมแล้วต้องแวะเวียนมาเป็นประจำ และ 3 เมนูนี้ยังเป็นที่มาที่ทำให้เกิดร้าน Anna & Chalie’s Café ด้วย

“ผมเป็นลูกค้าประจำของร้าน Anna Cafe ศาลาแดง มีช่วงหนึ่งที่ไม่ค่อยได้แวะไป แล้วพบอีกทีว่าร้านได้ปิดไปแล้ว ก็ออกตามหาว่าร้านหายไปตั้งอยู่ที่ไหน จนวันหนึ่งบังเอิญขับรถผ่านมาแถวๆแยกรัชดา-นราธิวาสนี้ ก็เห็นร้านอาหารชื่อ Chalie Cafe เป็นร้านเล็กๆ มีอยู่ 10 กว่าโต๊ะได้ พอมาทานก็เจอคุณชาร์ลี ผู้จัดการร้าน Anna Cafe ที่เรากำลังตามหาอยู่ เราก็ดีใจได้เจอรุ่นพี่ที่สนิทกันอีกครั้ง แล้วก็ยังได้ทานอาหารที่เราชื่นชอบด้วย

ไม่ว่าจะ แกงเขียวหวานไก่โรตี หมึกผัดไข่เค็ม ทอฟฟี่บัฟนอฟฟี่ ทั้ง 3 เมนูนี้รสชาติเหมือนเมื่อครั้งที่เราได้ทานที่ร้านตรงศาลาแดง แล้วพอสักหนึ่งปีได้พี่ชาร์ลีก็มาบอกว่าจะปิดร้านแล้วไปอยู่ที่ซานฟรานซิสโก เราก็เลยบอกกลับไปว่าอยากจะขอเปิดร้านต่อ ปล่อยให้ปิดไม่ได้จริงๆ แล้วก็เปลี่ยนชื่อร้านใหม่ไปด้วยเลยเป็นชื่อร้าน Anna & Chalie’s Cafe มาจากสูตรอาหารที่เป็นของร้านแอนนา ตรงศาลาแดง แล้วก็ให้เกียรติพี่ชาร์ลีที่เขาเป็นคนมาอยู่ตรงนี้ไปเลยด้วย”

คุณพิเชษฐ์ ศรีวรกุล หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน Anna & Chalie’s Cafe

นับตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ร้าน Anna & Chalie’s Cafe ได้เสิร์ฟความอร่อยตามสูตรเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยคงที่เสมอเข้าสู่ปีที่ 11 ด้วยความร่วมมือของหุ้นส่วนร้านที่ ต้องมาร่วมประชุมกันทุกวันอังคาร และแต่ละคนก็จะมีหน้าที่รับผิดชอบไปตามความถนัด แต่สิ่งที่ต้องพร้อมใจกันช่วยสรุปเสมอคือเรื่องรสชาติของอาหารแต่ละจานที่จะปล่อยออกไป อย่างเมนูกะหล่ำปลีทอดน้ำปลานี้ ชิมแล้วชิมอีกกันอยู่เป็นอาทิตย์

ทุกวันนี้ร้าน Anna & Chalie’s Cafe มีเมนูจานเด็ดให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานกว่า 100 เมนู ทั้งอาหารไทย-นานาชาติ และที่สำคัญทุกเมนูนั้นปราศจากผงชูรส ส่วนคอขนม(เค้ก)ที่ร้านก็มีเค้กหลากหลายรสชาติ อร่อยกลมกล่อมไม่หวานเลี่ยน ติดอันดับสายขนมหวาน อิ่มอร่อยภายใต้บรรยากาศร้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น โปร่งโล่ง สบายๆ เหมือนได้มาทานอาหารที่บ้านเพื่อน ตกแต่งสไตล์ยุโรป และมีต้นไม้ล้อมรอบร้านเพื่อเพิ่มความสดชื่น และช่วง 1 ทุ่มถึง 4 ทุ่มของทุกวันก็จะมีดนตรีสดจากศิลปินรุ่นใหญ่ตั้งแต่ยุค 60s ไปจนเพลงบอสซ่าสลับสับเปลี่ยนกันไปด้วย

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Anna & Chalie’s Cafe
Opening Hours: ทุกวัน 11:00-23:00 น.
Location: 177 ถ.นราธิวาส แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ (มุมถนนนราธิวาสตัดกับถนนรัชดา) | 0-2678-0092
[su_gmap width=”1600″ address=”Anna & Chalie’s cafe”] [/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

 

วัดปริวาสราชสงคราม : ประติมากรรมปูนปั้นร่วมยุคสมัยสุดสร้างสรรค์

วัดเก่าแก่ประจำย่านอายุกว่า 200 ปี ที่มองข้ามสมัยสื่อสารปริศนาธรรมผ่านงานศิลปะร่วมสมัยรายรอบบริเวณอุโบสถ ระดมฝีมือช่างไทยใส่จินตนาการและถ่ายทอดงานประติกรรมปูนปั้นเบญจรงค์ กลายเป็นงานศิลป์สามัคคีที่มีซูเปอร์ฮีโร่ และอีกหลากหลายคาแรกเตอร์เด็ดแห่งยุค

“ผมเข้ามาทำงานประติมากรรมปูนปั้นเบญจรงค์ที่วัดปริวาส ตั้งแต่ประมาณปี 2553 เริ่มแรกที่ทำคือบริเวณหลังคาเป็นรูปสัตว์หิมพานต์ที่สร้างสรรค์ต่อยอดจากงานของครูบาอาจารย์ แล้วขยับลงมาเป็นบริเวณคันทวยที่อยู่รอบๆ โบสถ์ก็เป็นรูปสัตว์ต่างๆ อีกเหมือนกัน มีทั้งรูปปั้นนักรบโบราณหลากหลายเชื้อชาติ และยังมีเทวดาชาติต่างๆที่ใช้จินตนาการและผูกขึ้นมาใหม่ โดยงานปูนปั้นประดับด้วยเบญจรงค์นี้ เราใช้กระเบื้องถ้วยเบญจรงค์ตัดเป็นชิ้นเล็กๆนำมาประดับ และยังต้องเลือกเฉดสีให้เหมาะสม ต้องสั่งให้โรงงานทำพิเศษขึ้นมา

สำหรับปูนปั้นคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูน หรือเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ศิลปะนานาชาติร่วมสมัยที่เป็นเอกลักษณ์ประจำวัดไปแล้วนี้ เริ่มมาจากที่รอบๆฐานโบสถ์ก่อน จากทางพระอาจารย์ทางวัดที่อยากให้มีความแปลกน่าสนใจ และช่างปั้นเองที่ใส่จินตนาการเข้าไป จนทำให้คนที่ได้ก้าวเข้าไปในโบสถ์แล้วร้อง…โอ้โห ดูแล้วรู้สึกแปลกหูแปลกตา ตอนนี้โบสถ์ก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเก็บรายละเอียดกันอีกนิด งานนี้ผมตั้งใจทำอย่างเต็มที่เพื่อทิ้งทวน ออกแบบคุมแบบต่างๆ และตั้งแคมป์อยู่ที่วัดนี้เลย ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ในนี้แทบทั้งวันเมื่อวานผมก็เพิ่งไปให้อาหารปลามา และในบริเวณวัดยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวหมู และส้มตำที่ขึ้นชื่ออยู่ด้วย และที่สังเกตได้ชัดหลังๆมานี้พอถึงวัดอาทิตย์คนมาเที่ยวแน่นวัดมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะ”

คุณสุรินทร์ ภาณุมาศ ประติมากรผู้รังสรรค์ศิลปะร่วมสมัยในพระอุโบสถวัดปริวาสราชสงคราม

ความน่าสนใจ(มาก)ของวัดปริวาสฯ ไม่ใช่แค่เพียงความเก่าแก่มีตำนานคู่ย่านพระราม 3 หรือเป็นวัดที่มีคนชอบมาให้อาหารปลาตัวเบิ้มที่มารวมกันอยู่บริเวณวังปลาเฉลิมพระเกียรติเท่านั้น ทว่า ศิลปะอันอันงดงามวิจิตรพิสดารที่ปรากฏอยู่รายรอบบริเวณพระอุโบสถนี้ เสมือนอีกแม่เหล็กที่ดึงดูดให้คนรุ่นใหม่และคนจากย่านอื่นชวนกันเข้าวัด เพื่อมาดูมาแชร์ภาพเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ การ์ตูนในดวงใจ ตัวละครสำคัญทั้งของตะวันออกและตะวันตก ไปจนถึงบุคคลสำคัญของไทยและโลก จากแนวความคิดของทางวัดปริวาสฯ ที่ต้องการทำให้อุโบสถมีค่าและความแปลก ยิ่งนานยิ่งมีคุณค่า และน่าภูมิใจว่าศิลปะนานาชาติร่วมสมัยที่แฝงปริศนาธรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนานี้ ถ่ายทอดผ่านฝีมือช่างปูนปั้นไทยโบราณของเรานี่เอง

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

วัดปริวาสราชสงคราม
Opening Hours: ทุกวัน 8:00-17:00 น.
Location: ถนนพระราม 3 ซอย 30 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ |0-2294-7711
[su_gmap width=”1600″ address=”วัดปริวาสราชสงคราม”] [/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

 

โรงเรียนสารสาสน์พิทยา : จุดกำเนิดโรงเรียนสองภาษา

54 ปีที่สารสาสน์พิทยาส่งต่อความรู้ให้กับเด็กๆในย่านพระราม 3 และยังเป็นโรงเรียนลำดับที่ 1 ของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนในเครือเกือบ 40 แห่งแล้ว

“ป้าเข้ามาเรียนที่โรงเรียนสารสาสน์เมื่อ 40 กว่าปีแล้ว ยังทันได้เรียนตอนที่โรงเรียนนี้ยังเป็นตึกไม้เลย เด็กๆทุกคนรักแม่ใหญ่หรืออาจารย์เพ็ญศรีกันหมดเพราะท่านใจดีมาก คนไหนที่ไม่ได้เรียนหนังสือแม่ใหญ่ก็จะดึงให้มาเรียน สมัยก่อนคนไทยเรามีลูกมากท่าน พ่อแม่ส่งให้เรียนหมดทุกคนไม่ไหว แม่ใหญ่ท่านก็เลยให้เรียน 3 คนฟรี 1 คน และทุกวันนี้อาจารย์ที่อายุ 80 กว่าปียังมาทำงานในโรงเรียนขายหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ ภารโรงที่อายุเยอะแล้ว ก็ยังทำหน้าที่ช่วยดูแลโรงเรียนนี้อยู่อย่างไม่มีกำหนดวันเกษียณอายุ”

ศิษย์เก่าโรงเรียนสารสาสน์พิทยาผู้ไม่ประสงค์ออกนาม

อาจารย์พิบูลย์ ยงค์กมล และอาจารย์เพ็ญศรี ยงค์กมล ‘พ่อใหญ่และแม่ใหญ่’ ของนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์พิทยา ทั้งคู่ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้มาตั้งแต่บริเวณเขตยานนาวา ยังเป็นอำเภอยานนาวา จังหวัดพระนคร และยังเป็นโรงเรียนที่ทดลองสอนหลักสูตร 2 ภาษาขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อันเป็นต้นแบบที่นำไปใช้อย่างเป็นทางการที่โรงเรียนสารสาสน์เอกตราซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกัน แรกเริ่มสร้างขึ้นเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น มีทั้งหมด 12 ห้องเรียน และข้างๆมีเรือนไม้ชั้นเดียวอีกเพียง 1 หลังเล็กๆมีอีก 3 ห้องเรียน เปิดสอนตั้งแต่เตรียมประถมจนถึงมศ.3 มีนักเรียนจำนวน 410 คน และครูเพียง 16 คนเท่านั้น 44 ปีผ่านไปจากตึกไม้กลายเป็นอาคารคอนกรีตสูง 7 ชั้น มีถึง 30 ห้องเรียน

ตอนที่เริ่มเปิดโรงเรียนใหม่ๆ อาจารย์พิบูลย์ต้องเป็นทุกอย่างในโรงเรียนไม่ว่าจะครูใหญ่ สอนหนังสือ ออกข้อสอบ หรือแม้กระทั่งพิมพ์ข้อสอบ และที่มาของการทำโรงเรียนสองภาษานั้น มาจากที่มีคุณแม่ชาวอเมริกันคนหนึ่งส่งลูกมาเรียนที่โรงเรียนสารสาสน์พิทยา แล้วอาจารย์พิบูลย์จึงให้ คุณแม่ชาวอเมริกันคนนั้นช่วยฝึกฝนภาษาอังกฤษให้กับบรรดาครูในโรงเรียน และยังเสนอว่าน่าจะเปิดเป็นโรงเรียนสองภาษาแบบที่อเมริกา และหลังจากนั้นก็ค่อยๆขยับขยายโรงเรียนในเครือสารสาสน์ไปยังที่ต่างๆดังเช่นทุกวันนี้

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

โรงเรียนสารสาสน์พิทยา
Location: ถนนสาธุประดิษฐ์ (ระหว่างซอยสาธุประดิษฐ์ 26-28) แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
[su_gmap width=”1600″ address=”Sarasas Pittaya School”] [/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

 

สะพานพระราม 9 : สะพานแขวนแห่งประวัติศาสตร์

สะพานขึงระนาบเดี่ยวแห่งแรกของประเทศไทย เคยติดอับดับสะพานแขวนที่มีช่วงกลางยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาว 782 เมตร และเปิดใช้มากว่า 3 ทศวรรษแล้ว

“สะพานพระราม 9 เป็นทางด่วนแรกที่ในหลวง ร.9 ออกแบบ จำได้แม่นเลยว่าวันที่เขาเปิดสะพานให้คนได้มาเดินกันนั้น สิ่งที่ตื่นเต้นของคนแถวนี้ไม่ว่าจะพระราม 3 หรือ ฝั่งสมุทรปราการมากๆ เราก็ไปกันหมดทั้งครอบครัวเลย แล้วก็มีรถในหลวง ร.9 เสด็จพระราชดำเนินผ่านด้วย ตอนนั้นสักพ.ศ. 2530 ออยอายุประมาณ 4 หรือ 5 ขวบ ก็ยังจำอะไรไม่ได้มากนัก แต่จำได้ว่าคนเยอะมากมองไปทางไหนก็มีแต่คนทั้งสะพานเลย เป็นครั้งแรกที่ได้เดินขึ้นสะพาน เป็นเหตุการณ์และภาพประทับใจที่ดีมากๆ ซึ่งก็คงไม่มีแบบนี้อีกแล้ว พอมีสะพาน 9 เราก็มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น จากพระราม 3 ตรงขึ้นสะพานพระราม 9 ไปก็สามารถไปทั้งสมุทรปราการ หรือไปออกพระราม 2 ออกเพชรเกษมได้เร็วยิ่งขึ้น”

คุณนุชนาฏ เลิศถาวรสิริ พนักงานออฟฟิศชาวพระราม 3

สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่โดดเด่นด้วยเส้นเคเบิลขึงสะพานสีเหลืองที่เรียงไล่อย่างเป็นระเบียบนี้ เป็นส่วนหนึ่งของทางด่วนฯ สายดาวคะนอง-ท่าเรือ ซึ่งพระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานชื่อ สะพานพระราม 9 เพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา และอีกประวัติศาสตร์สำคัญเกี่ยวกับสะพานพระราม 9 นี้ ที่ไม่ว่าทั้งชาวพระราม 3 รวมถึง ชาวกรุงเทพฯ ชาวสมุทรปราการ พร้อมใจกันมาร่วมเป็นหนึ่งในภาพประวัติศาสตร์สำคัญ

ในช่วงวันที่สะพานพระราม 9 เปิดเมื่อพ.ศ.2530 ได้มีการจัดงานมหกรรมวิ่งลอยฟ้าเฉลิมพระเกียรติ “กรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 1” ในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 เวลา 6 โมงเช้า อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดพร้อมกับพิธีเปิดสะพานด้วย ถ้าใครได้เห็นภาพในวันนั้นจะเห็นถึงพลังของประชาชนที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ณ สะพานแห่งนี้กันอย่างล้มหลามแน่นขนัดทั้งสะพานไล่มาจนถึงถนนด้านล่างเลยทีเดียว และแม้ว่าทุกวันนี้สะพานพระราม 9 จะเปิดเพื่อให้เป็นเส้นทางคมนาคมเพียงอย่างเดียว ที่บริเวณใต้สะพานฝั่งพระราม 3 นี้ก็มีสวนสาธารณะพระราม 3 ที่เป็นอีกพื้นที่ทางธรรมชาติที่ทำให้ชาวพระราม 3 ได้ออกมาสูดอากาศสดชื่น ลมเย็นสบาย และได้ออกกำลังกายด้วย ขยับไปอีกนิดที่ใต้สะพานวงแหวน หรือสะพานภูมิพล ซึ่งอยู่ใกล้ๆวัดด่าน มีท่าเรือข้ามฟากไปยังคลองลัดโพธิ์ จ,สมุทรปราการได้ภายใน 5 นาที เหมาะแก่การนั่งชิลชมแม่น้ำยามเย็น

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

สะพานพระราม 9
Opening Hours: ทุกวัน 24 ชั่วโมง
Location: แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ

[/su_tab] [/su_tabs]

 


Sponsored by Central Rama 3

มากกว่าแค่ช้อปปิ้ง…เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 โฉมใหม่ ศูนย์การค้าที่รีโนเวทใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Where Nature Meets Urban Living’ ผสานชีวิตของคนเมืองให้ใกล้ชิดติดธรรมชาติ และผสานให้เข้ากับย่านพระราม 3 ยิ่งขึ้น โดยเปิดโซนใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้และวัสดุธรรมชาติทั้งศูนย์การค้า อีกทั้งยังมอบการใช้ชีวิตเมืองสมัยใหม่เพื่อยกระดับให้ย่านพระราม 3 พร้อมเป็น ‘Center of Hip Lifestyle Quality’ ทั้งด้าน Hip Lifestyle และ Destination Concepts ใหม่ๆแห่งย่านพระราม 3


Photography by Sharp Jaruwat P

Magazine made for you.