CHILE: EcoCamp พักแบบรักษ์โลกท่ามกลางธรรมชาติสุดอลังการที่ Patagonia

ความงดงามของดินแดน Patagonia ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่สวยงามและดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยภูมิประเทศที่ผสมระหว่างเทือกเขาหิมะ ทุ่งหญ้า มหาสมุทร และธารน้ำแข็ง ประกอบกับความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายทางระบบนิเวศ ดินแดนนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจซ่อนตัวอยู่อีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ  EcoCamp โรงแรมโดมแห่งแรกของโลก ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติงดงามอลังการ ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในแคมป์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย

EcoCamp ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Torres del Paine National Park ของประเทศชิลี บริเวณคาบสมุทร Patagonia ทางตอนใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ที่กินพื้นที่ของประเทศชิลีและอาร์เจนติน่า

แคมป์แห่งนี้โดดเด่นด้วยห้องพักรูปโดมเหลี่ยมสีเชียว ที่ผุดขึ้นท่ามกลางธรรมชาติอย่างกลมกลืน ที่นี่ถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกรายละเอียดตั้งแต่วัสดุ การก่อสร้าง ไปจนถึงพลังงานที่ใช้ โดยโดมเหล่านี้ได้แรงบันดาลใจมากจากกระท่อมไม้ทรงครึ่งวงกลมของชนเผ่า Kaweskars ซึ่งเป็นชนเผ่าเร่ร่อนพื้นเมืองของดินแดนแถบนี้นั่นเอง

reception-dome_16299626996_o

รูปทรงที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมนี้ ช่วยรักษาอุณหภมิภายในให้คงที่ได้ดีที่สุด ทำให้ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังคาโดมแต่ละหลังยังมีหน้าต่างกระจกใส skylight หลายบาน ที่ตอนกลางวันรับแสงสว่างจากธรรมชาติเพื่อลดการใช้หลอดไฟ ในยามกลางคืนสามารถนอนดูดาวจากเตียงของเราได้อย่างงดงามทีเดียว

ecocamp-standard-dome_16299446216_o

ecocamp-standard-dome_16139510107_o

interior-suit-dome_6921660136_o

community-dome-interior-in-torres-del-paine-np-ecocamp-patagonia---chile_8240450223_o

การอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างกลมกลืนและรบกวนน้อยที่สุดนั้นเป็นหัวใจสำคัญของ EcoCamp แคมป์แห่งนี้ถูกออกแบบให้ไม่มีรั้วกั้นใดๆ แถมโดมแต่ละหลังตลอดจนแนวทางเดินที่เชื่อมต่อกันนั้นถูกยกพื้นให้สูงขึ้น เพื่อไม่ไปรบกวนระบบนิเวศเดิมบนผิวดินหรือขวางเส้นทางเดินเดิมของสัตว์ต่างๆ

ecocamp-suite-dome_16299601176_o

ในส่วนของพลังงานที่ใช้ในแคมป์ เป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด 100% ขึ้นใช้เอง (และพยายามใช้ให้น้อยที่สุด) โดย 40% มาจากพลังงานแสงอาทิตย์และ 60% มาจากพลังงานน้ำที่ปันมาจากแม่น้ำมาปั่นในระบบ hydro-electric ให้เป็นไฟฟ้าก่อนที่จะปล่อยกลับสู่แม่น้ำดังเดิมอีกครั้ง นั่นยังไม่นับระบบรีไซเคิลที่เกิดขึ้นภายใน ไปจนถึงการลดการผลิตขยะ ลดการปล่อย CO2 ให้น้อยที่สุด และระบบกำจัดขยะที่จะไม่ทิ้งสิ่งแปลกปลอมจากธรรมชาติเดิมไว้ที่นี่

ecocamp-patagonia-solar-panel-in-torres-del-paine_7440950640_o

community-dome_16138463190_o

การใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังในทุกรายละเอียดนั้นทำให้ที่นี่ เป็นที่พักแห่งแรกในชิลีและแห่งเดียวใน Patagonia ที่ได้รับการการันตีมาตรฐาน ISO14001 ทางด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม และ ISO 9001 ทางด้านการจัดการคุณภาพ รวมไปถึงได้รับรางวัลระดับ Platinum สำหรับโปรแกรม Greenleaders ที่จัดโดย LEED Green Associates มอบให้กับโรงแรมที่พักทั่วโลกซึ่งใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

patagonia-horse-riding-through-torres-del-paine-np---patagonia-chile_15841464067_o

ecocamp-suite-dome_15961073419_o

EcoCamp Patagonia เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ.2001 ผู้ก่อตั้งคือหุ้นส่วน 3 คน Yerko Ivelic กับ Javier López ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาเรียนล่องคายัคในบริเวณนี้กับครูสอน Nani Astorga ก่อนที่ทั้งหมดจะจับมือกันเปิดบริษัท Cascada Expediciones ขึ้นเพื่อสร้างที่นี่ขึ้นมา พร้อมกับกิจกรรมท่องธรรมชาติที่น่าสนใจอีกมากมาย ตั้งแต่การล่องเรือคายัค, การขี่จักรยานชมวิว, ทัวร์ชมวิถีชีวิตสัตว์, การเดินป่าทั้งแบบระยะใกล้ที่ไปเช้าเย็นกลับมานอนที่แคมป์ ไปจนถึงตารางเดินป่าแบบค้างแรม 7 วันกว่า 76 กม. ในโปรแกรม W trek ที่เป็นกิจกรรมเดินป่าที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งจะเดินท่องอุทยานแห่งชาติ Torres del Paine National Park เป็นเส้นทางรูปตัว W จากฝั่งตะวันตกสู่ฝั่งตะวันออก เราจะได้เห็นธรรมชาติหลากหลายรูปแบบผสมผสานอยู่ในเขตเดียวตั้งแต่ทุ่งหญ้า, ภูเขา, ป่าโปร่ง, ป่าทึบ, ทะเลสาบ, ลำธาร, แม่น้ำ, น้ำตก, ทะเล, ไปจนถึงธารน้ำแข็งและภูเขาหิมะ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนที่ไหนของคาบสมุทร Patagonia ที่มีเทือกเขาแอนดีส (Andes) ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลกพาดผ่านแกนกลางทำให้เกิดการแบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่ง โดยดินแดนฝั่งตะวันตกจะติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนดินแดนฝั่งตะวันออกจะติดกับมหาสมุทรแอนแลนติก นี่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ตลอดจนธรรมชาติแถบนี้

los-cuernos-fly-fishing---torres-del-paine-np-chile_8495113614_o

epica-race-in-torres-del-paine-national-park-mountain-bike_22379547992_o

patagonia-biking-in-torres-del-paine-np---chile_16009423556_o

reception-dome_16325577345_o

กิจกรรมที่ดูจะเป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงที่สุดนั้นเห็นจะเป็นกิจกรรม Patagonia Premium Photo Adventure โปรแกรมท่องป่าเพื่อบันทึกภาพถ่ายธรรมชาติสุดเอ็กคลูซีฟที่นำทีมโดย Diego Araya ช่างภาพมืออาชีพที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญด้านธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า โดยโปรแกรมที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ Patagonia Puma Tracking – Wildlife Photo Adventure ทัวร์ถ่ายภาพที่จะพาไปเรียนรู้วิถีธรรมชาติพร้อมๆ กับเทคนิคการถ่ายภาพสัตว์ป่า ในสถานที่เฉพาะที่จะทำให้เราได้เฝ้าสังเกตการณ์สัตว์ป่าอย่างใกล้ชิดแบบไม่รบกวนธรรมชาติ ซึ่งพระเอกของที่นี่ก็คือเสือพูม่านั่นเอง

สำหรับวิถีชีวิตในที่พักแห่งนี้ ถึงแม้จะเน้นวิถีเรียบง่ายแต่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดมศูนย์กลางอย่าง Community Domes ที่เป็นทั้งโซนพักผ่อนร่วมกัน ห้องสมุด ห้องอาหารตลอดจนบาร์ในยามค่ำคืน อีกโดมที่น่าสนใจก็คือ Yoga Dome ที่เน้นไปที่กิจกรรมโยคะโดยเฉพาะโดยจะมีคลาสโยคะให้ร่วมแจมกันฟรีในตอนเช้าและเย็นสำหรับแขกที่มาพักเพื่อออกกำลังกาย วอร์มร่างกายก่อนลุยกิจกรรมต่างๆ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังจากลุยกิจกรรมเสร็จในแต่ละวัน โดยโยคะที่สอนที่นี่จะเป็นทั้ง Hatha Yoga และ Kundalini Yoga ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้หัวใจสำคัญสำหรับการทำธุรกิจของที่นี่ คือการสนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่นและแรงงานท้องถิ่นให้มากที่สุด โดยลูกจ้าง 90% ของที่นี่จะเป็นคนท้องถิ่นแถบนี้แทบทั้งหมด วัสดุในการก่อสร้างรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นงานฝีมือท้องถิ่นที่มาจากเมือง Punta Arenas ที่อยู่ในแถบนี้ อาหารที่นำมาปรุงให้กับแขก ก็ล้วนแล้วแต่สนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อความสดใหม่ ใส่ใจความเป็นท้องถิ่น แล้วก็ยังลดการขนส่งที่จะก่อมลพิษกับสิ่งแวดล้อมในองค์รวมอีกด้วย

[su_tabs][su_tab title=”Details”]
Location:
Torres del Paine National Park,
Puerto Natales, Natales,Región de Magallanes y de la Antártica Chilena, Chile
ecocamp.travel/en
[su_gmap width=”1600″ address=”EcoCamp Patagonia, Chille”][/su_gmap]
[/su_tab]
[/su_tabs]

นักเดินทางที่เป็นทั้งนักเขียนและช่างภาพในตัว เขียนงานให้กับสื่อต่างๆ ในเมืองไทยมากมายตั้งแต่สารคดีหนักๆ, บทสัมภาษณ์, ไปจนถึงเรื่องดีไซน์และแฟชั่น แต่ผลงานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นบทความด้าน Food & Travel ที่เขียนถึงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เขาหลงรักอย่างญี่ปุ่น

Magazine made for you.