Amsterdam: A Guide to Blending In ตีเนียนเที่ยวแบบชาวอัมสเตอร์ดัม

เนเธอร์แลนด์มีอะไรมากกว่ากังหันลม ดอกทิวลิป กับรองเท้าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อัมสเตอร์ดัม นครหลวงที่มีจำนวนจักรยานมากกว่าคน มีพิพิธภัณฑ์มากกว่าห้าง ชนิดที่เที่ยวทั้งเดือนยังชมได้ไม่หมด ตลอดจนด้านหลุดโลกอันเป็นที่เลื่องลือ และเมื่อนึกย้อนไปถึงชื่อ ‘ฮอลันดา’ ซึ่งเป็นชื่อประเทศตะวันตกชื่อแรกๆ ที่ทุกคนต้องเคยได้ยินจากห้องเรียน ก็จะเข้าใจได้ว่าเรื่องราวสำคัญทางศิลปะและประวัติศาสตร์มากมายหลายยุคนั้นเกิดขึ้นที่อัมสเตอร์ดัมแห่งนี้นั่นเอง

อัมสเตอร์ดัมเปิดประตูบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวถึงปีละกว่า 20 ล้านคน แน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ นั้นเนืองแน่นไปด้วยผู้คนจนถ้าหากมัวแต่ตามเก็บสถานที่มีชื่อเสียงอย่างเดียว ก็อาจจะพลาดบางแง่มุมที่น่าสนใจของอัมสเตอร์ดัมไป วิธีหนึ่งที่เราจะสามารถเข้าไปรู้จักอัมสเตอร์ดัมแบบจริงๆ ได้ คือการลองเปลี่ยนสไตล์เที่ยวให้กลมกลืนกับเจ้าบ้าน ละเว้นจากกิจกรรมทัวร์ริสต์ทั้งหลาย ไป blend in ตีเนียนสวมบทเป็นชาวอัมสเตอร์ดัม ให้สมกับสโลแกน ‘I AMSTERDAM’ ของเมืองดูซักครั้ง ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เห็นอัมสเตอร์ดัมในมุมที่ต่างออกไปก็เป็นได้

Wear it like a local

เริ่มกันที่เสื้อผ้าก่อนเลย ชาวอัมสเตอร์ดัมหรือชาวดัตช์เขาแต่งตัวอย่างไร? ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์มินิมอลตามบุคลิกของแต่ละคน ว่าจะค่อนไปทางแนวสปอร์ตหรือธุรกิจ แต่พอถึงช่วงซัมเมอร์ผู้ชายจะเริ่มแต่งตัวมีสีสันมากขึ้นโดยเฉพาะกางเกง และถ้าคุณเสิร์ชคำว่า ‘Amsterdam Fashion Brand’ ชื่อแรกๆ ที่จะปรากฎขึ้นมาก็คือแบรนด์ Scotch & Soda

เวลาเดินเล่นตามย่านช้อปปิ้งในอัมสเตอร์ดัม ต้องมีสักครั้งที่จะกวาดสายตาไปเจอกับชื่อแบรนด์ Scotch & Soda กันบ้าง ไม่ร้านเสื้อผ้า ก็ร้านของแต่งบ้าน มีกระทั่งร้านน้ำหอม แต่ละสาขาออกแบบและตกแต่งอย่างสะดุดตาชวนเปิดประตูเข้าไป ยิ่งภายในร้านทั้งบรรยากาศที่แฝงไว้ด้วยวัสดุที่ให้ความรู้สึกเฉพาะตัว อย่างเช่น พื้นไม้ลายก้างปลา กระเบื้องทำมือ เสาหรือราวแขวนทองเหลือง โดยเฉพาะกลิ่นภายในร้านที่ว่ากันว่ามีกลิ่นเฉพาะที่ทำให้แค่เดินเข้าไปก็สัมผัสได้ทันที ว่านี่คือกลิ่นของ Scotch & Soda รวมไปถึงคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าที่แต่ละรายละเอียดถูกทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน ให้ความรู้สึกเป็นอัมสเตอร์ดัมที่มีกลิ่นอายความคลาสสิคและวินเทจผสมผสานกันอย่างลงตัว ใครที่อยากลองชุบตัวเป็นชาวอัมสเตอร์ดัมให้เริ่มจากเสื้อผ้าแบรนด์นี้ก่อนเลย

Scotch & Soda แบรนด์แฟชั่นสไตล์คลาสสิควินเทจ ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลกนี้ ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุค 80 แรกเริ่มนั้นผลิตเสื้อผ้าผู้ชายและขายส่งอยู่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม จนมีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญขึ้นในค.ศ.2001 เมื่อ 3 พาร์ทเนอร์จับมือกันรีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ ในปี ค.ศ.2008 เปิดช็อปแรกที่เมือง Utrecht ภายใน 6 ปีมีสาขาทั้งหมดกว่า 160 สาขา ใน 4 ประเทศ ด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการใหม่ที่กล้าลอง กล้าเปลี่ยน และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทำให้แบรนด์แฟชั่นนี้ค่อยๆ โตและขยายสาขาไปยังประเทศอื่นๆ รวมทั้งที่ประเทศไทยด้วย

ปัจจุบันแค่ในเมืองอัมสเตอร์ดัมมีร้าน Scotch & Soda ถึง 6 สาขา ด้วยด้วยความรักในการออกแบบเสื้อผ้า ทาง Scotch & Soda มุ่งหมายให้คนที่สวมใส่มีความสุข และรักเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนจะเริ่มออกแบบคอลเล็กชั่นใหม่ จะต้องแบ่งทีมเป็นคู่ๆ เพื่อออกเดินทางไปมุมต่างๆ ของโลก เพื่อหยิบเอาสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจกลับมาใช้ในการออกแบบ ไม่ว่าจะงานเพ้นท์ติ้ง, บทกวี, ของวินเทจ ฯลฯ และในขั้นตอนการออกแบบนั้นจะเริ่มต้นจากกระดาษ เพื่อให้ดีไซเนอร์รังสรรค์ออกมาได้อย่างไม่มีกรอบจำกัด ไปจนถึงการตกแต่งแต่ละชิ้นส่วนอย่างประณีต นอกจากนี้ หากสังเกตที่โลโก้ Scotch & Soda ดีๆ จะเห็นว่ามีรูปจักรเย็บผ้าอยู่ด้วย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ซ่อนนัยยะที่สื่อถึงยุคสมัยเสื้อผ้าที่ผลิตขึ้นด้วยมือของช่างผู้ชำนาญการเย็บผ้า และคำว่า ‘Amsterdam Couture’ ที่อยู่ในโลโก้ก็เพื่อเน้นย้ำถึงถิ่นฐานบ้านเกิดของแบรนด์ด้วย ต้องยอมรับเลยว่า Scotch & Soda ให้ความสำคัญกับรายละเอียดแทบจะทุกขั้นตอนและทุกๆ อย่างเลยจริงๆ

Eat, Drink and Chill

มารู้จักการกิน-ดื่ม-เที่ยวในแบบชาวอัมสเตอร์ดัมกันบ้าง หลังจากถามไถ่ชาวอัมสเตอร์ดัม ว่าคนที่นั่นเขากินอาหารอะไร นอกจากเมนูดั้งเดิมอย่างปลาเฮอริ่ง, กะหล่ำปลีดองสับรวมกับมันฝรั่งและไส้กรอก, ซุปถั่วเขียว ฯลฯ ก็ได้รู้จักกับคำว่า ‘Dutch-Indonesian’ อาหารอินโดนีเซียแบบดัตช์ๆ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากยุคอาณานิคม จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวดัตช์ หนึ่งในเมนูเด่นคือ rijsttafel (เรสทาฟเฟล) เมนูพื้นเมืองสไตล์ดัตช์-อินโดนีเซีย เป็นเซ็ตกับข้าวหลากหลายจาน เพื่อทานกับข้าว เสิร์ฟในชามขนาดเล็ก อาทิ ไก่สะเตะ, แกงเนื้ออินโด, กล้วยทอด เป็นต้น สามารถหาทานได้ไม่ยาก

KANTJIL & DE TIJGER

มีหลายร้านที่รสลือเลื่องจนมีรางวัลการันตี อย่าง Blauw ร้านอาหารอินโดนีเซีย ที่ The New York Times ประกาศก้องว่าเป็นอาหารอินโดนีเซียที่ดีที่สุดในเนเธอร์แลนด์ Ron Gastrobar Indonesia ร้านอาหารอินโดนีเซียในสไตล์ Gastro bar ที่มี Ron Blaauw เชฟชาวดัตช์มือรางวัลมิชลินการันตีความอร่อย KANTJIL & DE TIJGER หนึ่งในร้านอาหารอินโดนีเซียในดวงใจของคนที่นี่ ได้รางวัลร้านยอดเยี่ยมในอัมสเตอร์ดัมจาก TRIPEXPERT ปี 2018 (แนะนำว่าควรจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนทั้ง 3 ร้าน)

Cafe de Ceuvel

นอกจากนี้อาหารอีกประเภทที่มาแรงไม่แพ้กัน นั่นคืออาหารเพื่อสุขภาพ (Vegan & Vegetarian) อย่างร้าน Cafe de Ceuvel อยู่แถว Amsterdam-Noord มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Farm to Table ขนเอาวัตถุดิบจากท้องถิ่นมาทำ แล้วยังใส่ใจสีเขียวลงไปถึงคอนเซ็ปต์ของร้าน และการตกแต่งร้าน

นอกจากนี้ยังมี Meatless District ร้านที่สายวีแกนในอัมสเตอร์ดัมรู้จักกันเป็นอย่างดี ร้านนี้ปรุงและเสิร์ฟแต่ของดีเพื่อสุขภาพ และยังประกาศชัดเจนว่าเป็นร้าน Plant Based บรรดาพืชผักต่างๆ ที่นำมาใช้ต้องไม่ผ่านการขัดสีหรือการถนอมอาหารใดๆ และเบอร์เกอร์เขายังมีส่วนประกอบทำจาก Seitan หรือกลูเตนจากข้าวสาลีด้วย

Foodhallen

และอีกหนึ่งพิกัดที่น่าไปเยือนอีกที่ในอัมสเตอร์ดัมคือ Foodhallen อยู่ใน De Hallen (แหล่งแฮงก์เอาท์ชิคเก๋ของชาวอัมสเตอร์ดัม ที่แปลงโฉมอู่รถรางเก่าปีค.ศ.1902 ให้กลายเป็นคอมมูนิตี้ทางด้านวัฒนธรรม แล้วก็ยังมีโรงหนังอยู่ใกล้ๆ กันด้วย) เป็นฟู้ดคอร์ดที่มีลักษณะคล้ายกับ The COMMONS ทองหล่อของบ้านเรา มีอาหารหลากหลาย เมนูคาวหวานครบ ตั้งแต่โลคอลไปจนนานาชาติ เป็นอีกแหล่งแฮงก์เอ้าท์แสนอร่อยหรูของชาวอัมสเตอร์ดัม แถมวันเสาร์-อาทิตย์ยังนั่งยาวได้ถึงตี 1 นู่นเลย ร้านแนะนำ Meneer Temaki, The Butcher, Banh Mi, Shirkhan เป็นต้น World Food Kitchen เป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจและราคาเบาลงมาหน่อย อยู่ในย่าน Bijilmer ซึ่งต้องเดินทางไปอีกพอสมควร

เครื่องดื่มที่ชาวอัมสเตอร์ดัมคลั่งไคล้เป็นที่สุดเห็นจะเป็นกาแฟและเบียร์ สำหรับกาแฟเดิมมีขนบชงและดื่มกาแฟกันที่บ้านและมักจะเน้นกาแฟดำเป็นหลัก ทว่าด้วยยุคหลังนี้มีร้านกาแฟเปิดกันเพิ่มขึ้น ทำให้ชาวอัมสเตอร์ดัมชวนกันออกมานั่งดื่มตามร้านมากขึ้น เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็เพิ่งมีงาน Amsterdam Coffee Festival 2019 ที่ Westergasfabriek ไปและผู้ที่คว้าแชมป์ Roast Master จากงานนี้ไปครองก็คือร้าน White Label Coffee ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Rembrandt Park

White Label Coffee

มาต่อกันที่ เบียร์ในอัมสเตอร์ดัม มักถูกเสิร์ฟในแก้วเล็กๆ (fluitjes หรือ Vaasjes) และหนึ่งในร้านที่เป็นสวรรค์ของคนรักเบียร์เลยก็คือ Proeflokaal Arendsnest มีเบียร์สดกว่า 30 แท็ปและเบียร์ขวดอีกกว่า 100 รสชาติให้เลือกลิ้มลอง นอกจากนี้ก็มีร้านค็อกเทลรสชาติดีบรรยากาศเด่นผุดขึ้นมากมาย เช่น 5&33 บาร์สำหรับคนที่อยากดื่มค็อกเทลอร่อยๆ ในบรรยากาศคูลๆ แถมยังติด 1 ใน 10 ของค็อกเทลบาร์ที่ดีที่สุดในอัมสเตอร์ดัม Flying Dutchmen Cocktails ค็อกเทลบาร์ใจกลางเมือง ที่เน้นค็อกเทลสูตรคลาสสิค ล่าสุดได้รับรางวัล Best New Cocktail Bar 2018 จาก Esquire และยังเป็นบาร์ที่เปิดบริการจนถึงตี 4 ด้วย

Know the area

อย่างที่รู้กันดีว่าคนอัมสเตอร์ดัมสัญจรด้วยจักรยานเป็นหลัก ถ้าได้ลองเที่ยวด้วยจักรยานก็สามารถลัดเลาะไปในย่านต่างๆได้ ยิ่งถ้าได้ออกไปปั่นตามชานเมืองหรือสวนสาธารณะรับรองว่ายิ่งฟิน และปั่นสนุกจนหยุดไม่ได้เชียวล่ะ แค่เพียง 20 นาทีก็ได้สัมผัสธรรมชาติ สูดกลิ่นดอกไม้ใบหญ้าแล้วล่ะ

Amsterdamse Bos

หนึ่งในย่านน่าปั่นคือบริเวณ Amsterdamse Bos (Amsterdam Forest) ซิตี้พาร์คที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อยู่ทางตอนใต้ของอัมสเตอร์ดัม มีพื้นที่กว่า 2,500 เอเคอร์ รวมสารพัดสิ่งเอาไว้ทั้งฟาร์มแพะ, Fun Forest, ทะเลสาบ, ร้านแพนเค้กชื่อดัง Boerderij Meerzicht

Vondelpark

และใครที่เริ่มปั่นมาตั้งแต่ Dam Square จะยังได้ปั่นยังผ่าน Vondelpark สวนสาธารณะสไตล์อังกฤษ และพิพิธภัณฑ์รถรางไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งถ้าไม่แวะทั้ง 2 ที่ที่แนะนำไป จะใช้เวลาปั่นประมาณ 35 นาทีจึงจะถึง Amsterdamse Bos แล้วอย่าลืมขี่แต่ในเลนจักรยาน และชิดด้านขวาของถนนด้วย

สำหรับย่านฮิปที่กำลังมาแรงในช่วงนี้คือ Amsterdam Oost อีกย่านที่มีวัฒนธรรมหลากหลายมาก รวมคนจากหลากหลายชาติ อีกทั้งมีกิจกรรมคลีนๆกรีนๆที่น่าสนใจ อาทิ เล่นโยคะ, ชมดอกไม้บน Green Rooftop ที่ Hopp ตั้งอยู่บนโรงแรม Casa Amsterdam, ไปสวน Oosterpark, ส่วนนักชิมนักปรุงที่ Dappermarket ซึ่งอยู่บนถนน Dapperstraat ตลาดแห่งนี้มีของสดๆ ขึ้นชื่อครบครัน ไม่ว่าจะ ปลาเฮอริ่ง, ชีส ฯลฯ หรือแวะไปดูหนัง ฟังเพลง ทานอาหาร ที่ Studio/K ก็เก๋ไม่หยอก

Studio/K

Amsterdam Noord เดิมทีเป็นเขตอโคจรที่ค่อนข้างน่ากลัว แต่ช่วงหลังมานี้แปลงเป็นย่านเก๋ที่บูมขึ้นมาในอัมสเตอร์ดัม ยิ่งบริเวณรอบๆ IJ คูที่อยู่ระหว่างสถานี Amsterdam Central และ Amsterdam Noord มีมุมให้เราได้ทำหลายอย่างเลย อาทิ แวะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์แห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ Eye Filmmuseum (เจ้ย-อภิชาติพงศ์ ผู้กำกับชาวไทยเคยจัดแสดงนิทรรศการที่นี่มาแล้วด้วย)

Eye Filmmuseum

ใกล้ๆ กันเป็นตึก A’Dam Toren ตึกที่มีชิงช้าสูงที่สุดในยุโรป ห่างไปอีกราว 2 กิโลเมตรก็จะได้พบกับ De Ceuvel แหล่งสร้างสรรค์สีเขียวที่มุ่งใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และหนึ่งในพื้นที่นี้เป็นร้าน Cafe de Ceuvel ที่แนะนำไปแล้วข้างต้น

Keizersgracht Canal, Jordaan

ย่าน Jordaan ย่านที่คนอัมสเตอร์ดัมอยากอยู่ที่สุด ด้วยเป็นย่านเมืองเก่าที่สวย รายล้อมไปด้วยตึกเก่างามๆ และสถานที่ที่น่าสนใจอย่าง Antiekcentrum Amsterdam ตลาดแอนทีคในร่มที่ใหญ่ที่สุดในฮอลแลนด์

และทุกวันเสาร์ที่ Noordermarkt จะมีตลาด Farmers’ Market ตั้งแผงจำหน่ายของสดๆ ผลไม้ดีๆ แล้วก็ยังราคาถูกด้วย สุดท้ายย่านที่น่ารักน่าช้อป(ชะมัด) เห็นจะเป็น De 9 Straatjes (nine little streets) ถนนตัดกัน 9 เส้นตัดกันกริดเป็นสี่เหลี่ยม ละลานตาไปด้วยร้านบูทีค งานดีไซน์ต่างๆ มักจะมีดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่ยังไม่ดังมากมาเปิดร้านกันอยู่ที่นี่ ร้านที่น่าสนใจได้แก่ ร้านแว่นตาสุดเก๋ Polette, The Frozen Fountain ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ผ้า และของแต่งบ้าน เป็นต้น

Polette

Enjoy the culture

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อัมสเตอร์ดัมมีพิพิธภัณฑ์กระจายอยู่ทั่วเมืองกว่า 70 แห่ง แม้ว่าเมื่อเอ่ยถึงพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง ชื่อที่ถูกหยิบขึ้นมาก็มักจะเป็น Rijksmuseum พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ พิพิธภัณฑ์แวนโกะห์ และพิพิธภัณฑ์ Anne Frank Huis ทว่ายังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์แปลกๆ อยู่อีกมาก อย่างเช่น Kroller-Muller Museum พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยซึ่งซ่อนตัวอยู่ใน National Park de Hong Veluwe ที่มีงานศิลปะจัดแสดงอยู่อีกกว่าพันชิ้น หนึ่งในนั้นเป็นงานของแวนโกะห์ และยังจัดแสดงงานมาสเตอร์พีชของศิลปินระดับโลกหลายสิบชิ้น Jood Historisch Museum พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชาวยิวเอาไว้ Stedelijk Museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่กล่าวกันว่ามีอิทธิพลต่อศิลปะในศตวรรษที่ 20 Foam อีกพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายอันดับต้นๆ ของโลก

Stedelijk Museum

และใช่ว่าพิพิธภัณฑ์เท่านั้นที่น่าเดิน ดินแดนนี้ยังมีพื้นที่สร้างสรรค์ที่ชวนให้เดินอย่างไม่รู้เหนื่อย อาทิ Moooi Showroom & Brand Store เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังของที่นี่ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2001 โดยหนึ่งในผู้ก่อตั้งคือ Marcel Wanders Chair ชายหนุ่ม ผู้สร้างเสียฮือฮาในงาน Milan Design Week ได้เสมอ และยังได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Business Week โดยผลงานเลื่องชื่อก็คือ Knotted NDSM Wharf อดีตอู่ต่อเรือ ที่กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ทางด้านศิลปะและดีไซน์ต่างๆ เป็นแหล่งขุมทรัพย์ข้าวของวินเทจ และยังเป็นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้งด้วย

Moooi Showroom & Brand Store

และถ้าใครมาเที่ยวในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคมก็จะได้ร่วม Amsterdam Gay Pride เทศกาลพาเหรดสีรุ้งอันสุดฤทธิ์สุดเดช ซึ่งมีมาตั้งแต่ค.ศ. 2011 มีทั้งชาว LGBT และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ตั้งใจเก็บกระเป๋าเดินทางมาเพื่อร่วมเทศกาลนี้โดยเฉพาะ ที่แตกต่างและโดดเด้งจากที่อื่นก็ตรง การตั้งขบวนพาเหรดกันบนน้ำ ขบวนเรือค่อยๆ ไหลตามกันไปกว่าร้อยลำ (ปีนี้มีขบวนเรือสีรุ้งและสตรีทปาร์ตี้วันที่ 2 และ 4 ส.ค.นี้)

Amsterdam Gay Pride 2017

2 เดือนถัดมาช่วงวันที่ 16-20 ต.ค. 2019 ก็มีอีกงานใหญ่งานสำคัญอย่าง Amsterdam Dance Event (ADE) เทศกาลดนตรีเต้นรำและดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุด จัดขึ้นหลากหลายเวทีในอัมสเตอร์ดัม มีศิลปินและดีเจชื่อดังรวมกว่า 2,500 ชีวิตเข้าร่วมแสดงในคลับและสถานที่ต่างๆในอัมสเตอร์ดัมกว่า 140 แห่ง

แล้วส่งท้ายปลายปีกับ Amsterdam Light Festival เทศกาลไฟฤดูหนาวที่มีขึ้นช่วงปลายปีจนถึงต้นปีถัดไป ในงานนี้จะมี มีศิลปินนักออกแบบชื่อดังหลากสัญชาติหลายสิบชีวิต มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานตามแม่น้ำอาคารบ้านเรือน และปลายปีนี้จะเป็นครั้งที่ 8 แล้ว

Amsterdam Light Festival 2017


Sponsored by Scotch & Soda

จากแบรนด์เล็กๆในอัมสเตอร์ดัม ก้าวกระโดดสู่แบรนด์แฟชั่นที่มีสาขาไปทั่วโลก และประเทศไทยยังเป็นสาขาแรกในแถบเอเชียด้วย แม้จะเติบโตอย่างมาก แต่รายละเอียดในทุกขั้นตอนยังเป็นสิ่งที่ทาง Scotch & Soda คำนึงถึงอยู่เสมอ เช่นการตกแต่งภายในช็อปต่างๆ ทีถึงจะเน้นความเป็นสากล แต่ยังสอดแทรกความเป็นเมืองอัมสเตอร์ดัมเอาไว้ อีกทั้ง range ราคาก็ไม่แพง ราคาหลักพันจับต้องได้

และคอลเล็กชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2019 ที่ทาง Scotch & Soda รังสรรค์ออกมาคือ ‘House of Perfect Strangers’ ชวนเดินทางกลับไปยังซัมเมอร์ในปี 1976 ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางไปพักผ่อนในสก็อตแลนด์ อยู่ในที่ที่อบอุ่นสบายเหมือนบ้าน พร้อมๆกับความสดชื่นด้วย ตามไปค้นหากันได้ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่, ห้างสรรพสินค้าเซ็น,เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลภูเก็ต

ข่าวดีสำหรับแฟนๆ Scotch & Soda ติดต่ทอัพเดทข่าวสารต่างๆ ได้ง่ายๆ เพียงเพิ่มเพื่อน LINE ที่ Scotch&Soda @CE

Magazine made for you.