พาเดินชมชั้นต่อชั้นที่ Yayoi Kusama Museum ของ ‘เจ้าแม่ลายจุด’ ใจกลางโตเกียว

ตึกสีขาวสูงชะลูดที่ผุดขึ้นท่ามกลางบ้านเรือนสีเอิร์ธโทน เป็นสิ่งที่ยากจะหลุดรอดสายตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาในแถบนี้ของชินจูกุ เชื่อว่าใครก็ตามที่เคยผ่านตาผลงานของยาโยอิ คุซามะ (Yayoi Kusama) มาบ้าง คงต้องจินตนาการว่าอาคารอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเธอคงจะต้องหน้าตาเหมือนฟักทอง หรือเป็นรูปทรงอะไรที่อธิบายเป็นภาษามนุษย์ลำบาก แต่จุดหมายที่เรากำลังมุ่งหน้าไป เป็นเพียงตึกสีขาวที่เรียบและดูสงบต่างจากผลงานฉูดฉาดที่เราเคยเห็นกันมา

แต่เมื่อเดินใกล้เข้าไป แล้วไล่สายตาลงมาจนถึงชั้นล่างสุด จนเห็นแพทเทิร์นลายจุดอันเป็นเอกลักษณ์พาดอยู่เต็มหน้าทางเข้า เราก็รู้ทันทีว่าได้มาถึงพิพิธภัณฑ์ของ ‘เจ้าแม่ลายจุด’ ยาโยอิ คุซามะ ถูกที่แล้ว

yayoi kusama

Yayoi Kusama Museum ตั้งอยู่ในเขตชินจูกุ ใจกลางมหานครโตเกียว สถาปัตยกรรมนี้เป็นอาคาร 5 ชั้น ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกญี่ปุ่นอย่าง Kume Sekkei อันที่จริงอาคารนี้สร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2014 แต่ก็ถูกเลื่อนมาเปิดทำการในปี 2017 นี้ ซึ่งพิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการแห่งแรกแห่งเดียวของยาโยอิ คุซามะที่บริหารงานโดย Yayoi Kusama Foundation เอง และกำลังจะเปิดตัวให้เข้าชมกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2017 ที่จะถึงนี้

ชั้นที่ 1

เมื่อก้าวเท้าผ่านกระจกลายจุดเข้ามา ก็จะพบกับพื้นที่ต้อนรับและร้านขายของที่ระลึกที่อาจทำให้เงินในมือหลายคนต้องสั่นตั้งแต่ยังไปไม่ถึงตัวนิทรรศการ บางชิ้นดูเป็นงานศิลปะย่อส่วนที่น่าเก็บสะสม บางชิ้นก็ดูน่าเอามาใช้จริง แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะซื้อของจนไม่มีเงินซื้อบัตรชมนิทรรศการ เพราะ Yayoi Kusama Museum ขายบัตรชมนิทรรศการทางออนไลน์ และต้องจองรอบเข้าชมล่วงหน้าเท่านั้น

สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับ ยาโยอิ คุซามะ เธอคือศิลปินหญิงชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลกวัย 88 ปี ผู้มีแพทเทิร์นลายจุดอันเป็นเอกลักษณ์และประติมากรรมรูปทรงแปลกประหลาด หนึ่งในผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือห้องกระจก Infinity Mirror Room ซึ่งเป็นผลงานที่โด่งดังต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1965 เธอถูกยกย่องให้เป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียงที่สุดของปี 2014 และยังเคยถูกจัดให้เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกโดยนิตยสาร Time เมื่อปี 2016 อีกด้วย

ชั้นที่ 2

นิทรรศการเปิดตัวของ Yayoi Kusama Museum ที่มีชื่อว่า Creation is a Solitary Pursuit, Love is What Brings You Closer to Art ประกอบไปด้วยผลงาน 3 ชุดที่ถูกจัดแสดงไว้ในแต่ละชั้นของพิพิธภัณฑ์

งานจัดแสดงแรกบนชั้น 2 มีชื่อว่า Love Forever เป็นการจัดแสดงภาพ 27 ชิ้น จากผลงานชุด Love Forever ที่เป็นงานลายเส้นขาวดำจากปลายปากกามาร์กเกอร์ ซึ่งยาโยอิ คุซามะวาดขึ้นระหว่างช่วงปี 2004 ถึง 2007 ชื่อ Love Forever เป็นหนึ่งในวลีที่เธอชอบใช้เป็นชื่องานของเธอหลายต่อหลายครั้งเพื่อสื่อถึงความรักของเธอที่มีให้กับโลกใบนี้ด้วย

ชั้นที่ 3

นิทรรศการศิลปะในชั้นนี้มีชื่อว่า My Eternal Soul เป็นจิตรกรรมสีอะคริลิคสีสันฉูดฉาดแตกต่างกับชั้นที่ 2 อย่างสิ้นเชิง ผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้มีทั้งหมด 16 ชิ้นที่คัดเลือกมาจัดแสดงด้วยตนเอง

ยาโยอิ คุซามะเริ่มสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้ขึ้นตั้งแต่ปี 2009 หลังจากผลงานชุด Love Forever และทำเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เดิมทีงานชุดนี้ถูกกำหนดไว้ที่ 100 ชิ้น แต่ก็มีการสร้างสรรค์งานต่อมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันมีมากกว่า 530 ชิ้น ทำให้ผลงานชุด My Eternal Soul ถือเป็นชุดผลงานศิลปะที่ใหญ่และมีจำนวนมากที่สุดของเธออีกด้วย

ความพิเศษของผลงานชุดนี้ คือมีผลงานใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นและไม่เคยนำไปจัดแสดงที่ไหนมาก่อนรวมอยู่ด้วย รวมไปถึงผลงานชิ้นไฮไลท์ที่ใช้เปิดตัวพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้อย่าง I LOVE – EYES (2013) ที่ถูกนำไปใช้เป็นรูปภาพประชาสัมพันธ์หลักบนโปสเตอร์โปรโมทนิทรรศการ และยังเป็นฉากหลังของวิดีโอสัมภาษณ์เธอด้วยนั่นเอง

ชั้นที่ 4

งานนี้อาจจะเป็นงานศิลปะที่ทุกคนคุ้นตากันมากที่สุด ชั้นที่ 4 จัดแสดงผลงานที่ชื่อว่า PUMPKINS SCREAMING ABOUT LOVE BEYOND INFINITY ประติมากรรมฟักทองสีเหลืองลายจุดดำอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของยาโยอิ คุซามะ ถูกนำมาจัดวางในห้องกระจกสะท้อนเงาที่เรียกว่า Infinity Mirror Room ที่สะท้อนเงาให้เราเห็นรูปฟักทองแบบไม่รู้จบ เปรียบเสมือนจักรวาลแห่งทุ่งฟักทองเลยทีเดียว

สำหรับห้องกระจกเงานั้นยาโยอิ คุซามะสร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นครั้งแรกในชื่อ “Infinity Mirror Room – Phalli’s Field” เมื่อปี 1965 จนมีชื่อเสียงและกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เธอสร้างสรรค์งานในรูปแบบเดียวกันนี้หลายครั้งในหลากหลายนิทรรศการศิลปะทั่วโลก แต่ PUMPKINS SCREAMING ABOUT LOVE BEYOND INFINITY เป็นผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของเธอที่เพิ่งสร้างสรรค์ขึ้นในปี 2017 นี้โดยใช้เทคนิคดังกล่าวมาถ่ายทอดความไม่สิ้นสุดของจินตนาการอีกครั้งด้วยเทคนิคการจัดแสดงรูปแบบใหม่ที่ต้องลองไปสัมผัสกันดู

ชั้นที่ 5

ชั้นบนสุดนี้แบ่งเป็น 2 โซน โซนแรกจะเป็นห้องสมุดเกี่ยวกับองค์ความรู้ของงานศิลปะแขนงต่างๆ ที่ยาโยอิ คุซามะทำมาทั้งชีวิต และอีกโซนจะเป็นลานอเนกประสงค์เล็ก ๆ หลังคาเปิดโล่งที่เรียกว่า Rooftop Gallery ซึ่งตรงนี้จะมีผลงานศิลปะที่เป็นพระเอกของชั้นตั้งอยู่ชิ้นเดียวอย่างโดดเด่น คือ Starry Pumpkin ประติมากรรมฟักทองลายจุดที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยเทคนิกการใช้โมเสก ประดับกระเบื้องสีชิ้นเล็ก ๆ ลงไป งานชิ้นนี้คือประติมากรรมฟักทองชิ้นล่าสุดที่ยาโยอิ คุซามะสร้างสรรค์ขึ้นและไม่เหมือนฟักทองชิ้นที่ไหนที่เธอเคยทำมาก่อน

การจัดนิทรรศการของ Yayoi Kusama Museum จะหมุนเวียนปีละ 2 ครั้ง โดยผู้ที่รับหน้าที่ดูแลจัดการในฐานนะเป็น Director ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ Akira Tatehata ประธานของมหาวิทยาลัยด้านศิลปะที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นอย่าง Tama Art University และเป็น Director ของ Museum of Modern Art, Saitama ด้วย

©YAYOI KUSAMA

สำหรับนิทรรศการแรกสุดของ Yayoi Kusama Museum ที่จะเปิดให้ชมกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2017 นี้ มีชื่อว่า “Creation Is a Solitary Pursuit, Love Is What Brings You Closer to Art” ซึ่งจะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2017 – 25 กุมภาพันธ์ 2018 มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็กและเยาวชนอายุ 6-18 ปี 600 เยน

ตั๋วเข้าชมจะจำหน่ายทาง Online เท่านั้น โดยเริ่มเปิดจองบัตรตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2017 ที่ผ่านมา ผ่านเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ Yayoi Kusama Museum สำหรับผู้ที่อยากจะเข้าชมกันจริงๆ คงต้องจองตั๋วล่วงหน้ากันนิด เพราะขณะที่พิพิธภัณฑ์ยังไม่เปิดบริการอย่างเป็นทางการนั้นตั๋วก็เต็มไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2017 แล้ว (คิวล่าสุดที่สามารถเข้าชมได้ก็คือ ธันวาคม 2017)

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening Hours:
เปิด-ปิด : พฤหัสบดี – อาทิตย์ / 11.00-17.00 น. (หยุด : จันทร์, อังคาร และ พุธ)
โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาเข้าชมตามนี้
รอบที่ 1 เวลา 11.00-12.30 น. (เวลาเข้าพิพิธภัณฑ์ 11.30 น.)
รอบที่ 2 เวลา 12.30-14.00 น. (เวลาเข้าพิพิธภัณฑ์ 13.00 น.)
รอบที่ 3 เวลา 14.00-15.30 น. (เวลาเข้าพิพิธภัณฑ์ 14.30 น.)
รอบที่ 4 เวลา 15.30-17.00 น. (เวลาเข้าพิพิธภัณฑ์ 16.00 น.)
หมายเหตุ : เวลาชมนิทรรศการในแต่ละรอบ 90 นาที / แต่ละรอบจำกัดผู้ชมไว้ที่ 50 คน

Admission:
ราคาค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ¥1,000 / เด็กและเยาวชน 6-18 ปี ¥600 (จองตั๋วล่วงหน้าผ่านทาง Online เท่านั้น / ไม่มีตั๋วจำหน่ายหน้างาน)
เว็บไซต์จองตั๋ว : www.e-tix.jp/yayoikusamamuseum/en/
เว็บไซต์พิพิธภัณฑ์ : yayoikusamamuseum.jp

Location:
Yayoi Kusama Museum
107 Bentencho Shinjuku-ku Tokyo 162-0851 Japan
สามารถเดินทางไปได้โดย
Tokyo Metro สาย T-Tozai (สีฟ้า) ลงสถานี T04-Waseda
Tokyo Metro (Toei Line) สาย E-Oedo (สีชมพูบานเย็น) ลงสถานี E04-Ushigome-yanagicho

[su_gmap width=”1600″ address=”Yayoi Kusama Museum, Japan”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


Photography by Kohki Shiraishi

นักเดินทางที่เป็นทั้งนักเขียนและช่างภาพในตัว เขียนงานให้กับสื่อต่างๆ ในเมืองไทยมากมายตั้งแต่สารคดีหนักๆ, บทสัมภาษณ์, ไปจนถึงเรื่องดีไซน์และแฟชั่น แต่ผลงานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นบทความด้าน Food & Travel ที่เขียนถึงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เขาหลงรักอย่างญี่ปุ่น

Magazine made for you.