“วิถีแห่ง แท็กซี่” จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

“แท็กซี่” (taxi หรือ cab) ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์การเดินทาง ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว แตกต่างกันไปในแต่ละเมือง ไม่ว่าจะ ลักษณะรถ ลักษณะการจราจร พฤติกรรมคนขับ กฏระเบียบของรัฐในการออกใบอนุญาตขับขี่ ตลอดจนการตั้งราคา และมารยาทในการสื่อสาร ล้วนแล้วแต่สะท้อน ให้เห็นถึงวัฒนธรรม ของแต่ละดินแดน

แท็กซี่ ในเยอรมันเป็นรถเบนซ์ E-Class คันโตในขณะที่แท็กซี่ในอินเดียใช้รถ Premier Padmini รุ่นคุณปู่คันเล็กเพื่อซอกแซกไปตามถนนราวกับเป็นมอเตอร์ไซค์, คนขับแท็กซี่ในอังกฤษต้องใช้เวลาศึกษานานนับปีเพื่อสอบเป็นคนขับแท็กซี่ที่ได้มาตรฐานในขณะที่ในบางประเทศใช้เวลาไม่ถึง 2 วันก็ได้เป็นคนขับแท็กซี่แล้ว เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจเหล่านี้ จะทำให้เรานักเดินทาง ได้รู้จักวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายของแต่ละเมืองใหญ่ทั่วโลกผ่าน “วิถีแห่งแท็กซี่”

New York Taxi - by Randy Caldwell "วิถีแห่ง แท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

New York Taxi - by Giusy "วิถีแห่ง แท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

New York, USA

  • เริ่มมีการใช้รถไฟฟ้าสี่ล้อเล็กรับจ้างครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1897 (118 ปีก่อน)
  • “อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งแรก” และ “ใบสั่งขับรถเร็วเกินกำหนดใบแรก” ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ เกิดจาก Taxi ไฟฟ้าเมื่อปีค.ศ. 1899
  • ช่วงปี 1907  บริษัท New York Taxicab Company นำเข้ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลงจากฝรั่งเศสมาใช้เป็น Taxi เป็นเจ้าแรก ในช่วงเริ่มต้นรถเป็นสีแดง และ สีเขียว แต่ถูกเปลี่ยนให้เป็นสีเหลือง (Yellow Cabs) ทั้งหมดในเวลาต่อมา เพื่อให้สังเกตได้ง่ายจากระยะไกล
  • ปัจจุบันในเมือง New York มีรถ Yellow Cabs อยู่ราว 13,000 คัน (กรุงเทพมีแท็กซี่มากกว่า 100,000 คัน)
  • ชาวนิวยอร์กจะขึ้นรถ ปิดประตูให้เรียบร้อย แล้วจึงบอกปลายทางกับคนขับ เพราะคนขับจะไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร
  • การปฏิเสธลูกค้าเป็นเรื่องผิดกฏหมาย (ถ้าปลายทางอยู่ภายใน 5 เขตหลักของเมืองนิวยอร์ก)
  • คนขับสามารถปฏิเสธลูกค้าได้ ในกรณีที่การเดินทางนั้นจะใช้เวลาเกินกว่า 12 ชั่วโมงติดต่อกัน (ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าจะเรียก Taxi จากสยามสแควร์ไปเวียงจันทร์ คนขับสามารถปฏิเสธได้ ถือว่าถูกกฏหมาย)
  • ก่อนหน้านี้ Taxi ส่วนใหญ่เป็นรถ Ford แต่เปลี่ยนเป็น Nissan NV200 ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา
  • คนขับ Taxi ต้องแต่งตัวสุภาพห้ามใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ
  • กฏหมายนิวยอร์กไม่อนุญาตให้คนขับใช้หรือคุยโทรศัพท์มือถือขณะทำงาน (ห้ามแม้แต่การใช้ hand-free) แต่ในความเป็นจริงผู้โดยสารส่วนใหญ่จะพบว่าคนขับมักคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา
  • ผู้โดยสารมีสิทธิในฐานะผู้บริโถค ผู้โดยสารสามารถขอให้คนขับลดเสียงหรือวางโทรศัพท์ได้ หรือในกรณีที่อากาศร้อนมากๆ ก็ขอให้คนขับเปิดหน้าต่างได้
  • คนขับ Yellow Cabs ใน New York มีรายได้เฉลี่ย 90,000 เหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 2.9 ล้านบาทต่อปี หรือ 250,000 บาทต่อเดือน)

[hr align=”center” style=”dotted”]

Tokyo taxi - by Jon Lenzmeier  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Tokyo Taxi - by Rak's Photography 楽  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Tokyo, Japan

  • ในกรุงโตเกียวมีแท็กซี่อยู่ประมาณ 50,000 คัน นับเป็น 20% ของแท็กซี่ทั้งประเทศ ซึ่งนับว่ามากกว่า New York ถึง 3 เท่า
  • แท็กซี่คืออาชีพของคนแก่ อายุเฉลี่ยของคนขับแท็กซี่ในโตเกียว คือ 57.9 ปี กว่าครึ่งอายุเกิน 60 ปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ (35 ปีที่แล้วอายุเฉลี่ยของคนขับอยู่ที่ 39.2 ปี)
  • รายได้เฉลี่ยต่อวันของคนขับแท็กซี่ในโตเกียวคือ 50,000 เยน (ประมาณ 14,000 บาท) ซึ่งลดน้อยลงมากเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา เพราะชาวโตเกียวนั่งแท็กซี่กันน้อยลงเนื่องจากการคมนาคมอื่นในโตเกียวเจริญขึ้นมาก
  • ราคามิเตอร์เริ่มต้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ เฉลี่ยประมาณ 550-800 เยน (150-220บาท) ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ผู้โดยสารสามารถ สังเกตสติกเกอร์ราคาบนกระจกประตูด้านหลังฝั่งคนนั่งได้
  • ค่าแท็กซี่กลางคืน (22.00-5.00)จะแพงกว่ากลางวัน ถ้ารู้สึกว่ามิเตอร์กลางคืนขึ้นเร็วกว่าก็ไม่ต้องตกใจ
  • แท็กซี่โตเกียวรับบัตรเครดิต แต่อาจมีขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 5,000 เยน ถ้าผู้โดยสารต้องการจ่ายด้วยบัตรเครดิตควรแจ้งคนขับล่วงหน้า
  • แท็กซี่ญี่ปุ่นไม่รับทิป บางคนอาจถือว่าการให้ทิปเป็นการดูถูกอาชีพของพวกเขา
  • รถแท็กซี่รุ่นที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในญี่ปุ่นคือ Toyota Crown
  • คนขับแท็กซี่จะสวมสูทเรียบร้อย และจะใส่ถุงมือสีขาวเสมอ
  • อย่าเปิดปิดประตูเอง! เมื่อรถจอดรับ คนขับจะกดเปิดประตูฝั่งที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังให้ และกดปิดประตูเมื่อเห็นว่าผู้โดยสารขึ้นรถอย่างปลอดภัยแล้ว

[hr align=”center” style=”dotted”]

 |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

London Cab -by Mei Ying Chan  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

London, UK

  • แท็กซี่ลอนดอนคือความภูมิใจ และอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของกรุงลอนดอน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสืบเนื่องมาตั้งแต่ศตวรรตที่ 17 ตั้งแต่สมัยที่รถรับจ้างสาธารณะยังเป็นรถเทียมม้า
  • คำว่า “taxicab” ย่อมาจากคำเต็มว่า “taximeter cabriolet” ซึ่งคำว่า cabriolet หมายถึงรถเทียมม้า และ taximeter หมายถึง มาตรวัดราคาค่าธรรมเนียม
  • ชาวอังกฤษมักเรียกแท็กซี่ว่า “cab”
  • Black cab ของลอนดอนมีรูปลักษณ์เฉพาะตัว และมีพื้นที่โดยสารที่โอ่อ่านั่งสบาย ออกแบบมาเพื่อให้สุภาพบุรุษในยุคก่อนที่นิยมสวมหมวก bowler hat ทรงสูง สามารถโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย
  • คนขับแท็กซี่ของลอนดอน ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนขับแท็กซี่ที่ดีที่สุดในโลก
  • กว่าจะได้รับใบอนุญาตให้สามารถขับ Black cab ได้ คนขับทุกคนต้องจดจำกว่า 320 เส้นทางหลังซึ่งประกอบด้วยถนนกว่า 25,000 สาย รวมถึงทางลัดต่างๆที่สามารถพาผู้โดยสารไปสู่ที่หมายได้เร็วที่สุด ตลอดจนจดจำสถานที่สำคัญในเมืองให้ได้หมดเหมือนกับเป็นไกด์ เพราะคนขับไม่ได้มีหน้าที่แค่พาไปให้ถึง แต่ยังต้องรู้จักสถานที่ที่จะไปอีกด้วย
  • การสอบวัดความรู้ของคนขับแท็กซี่ มีชื่อเรียกว่า “The Knowledge” ซึ่งต้องใช้เวลาเรียนรู้เฉลี่ย 15-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 ปี
  • Black Cabs รับผู้โดยสารได้ 5 คน และวางกระเป๋าได้เท่าที่พื้นที่บนรถจะเหลือเท่านั้น คนขับจะไม่ทำสิ่งที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น การผูกสัมภาระไว้บนหลังคารถเด็ดขาด
  • สุนัขนำทางสำหรับผู้พิการขึ้นแท็กซี่ฟรี
  • แท็กซี่ทุกคันกว้างพอที่จะรับรถเข็นคนป่วยหรือพิการได้ หลายคันมีทางลาดให้บริการ สำหรับการเข็นรถเข็นขึ้นรถไปได้ทั้งคันเลย
  • การดื่มถือเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของชาวอังกฤษ แต่ถ้าผู้โดยสารเกิดอ้วกบนรถแท็กซี่ ก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายถึง £40 (ราว 2,000 บาท) ซึ่งรวมไปถึงการสร้างความเสียหายแบบอื่นๆด้วย อย่างเช่นการทำอาหารหรือเครื่องดื่มเลอะบนรถก็จะโดนปรับเช่นกัน

[hr align=”center” style=”dotted”]

Paris Cab - by axel_mazerolles  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Paris Taxi - by nina's clicks  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Paris, France

  • “ปารีสเป็นเมืองเดียวในโลกที่หาแท็กซี่ได้ยากมาก” นิโคลัส ซาร์โกซี อดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศสกล่าวเอาไว้เมื่อปีค.ศ. 2008
  • กรุงปารีสมีรถแท็กซี่ประมาณ 20,000 คัน มีสีสันและรุ่นที่แตกต่างหลากหลาย ก่อนขึ้นควรเช็คให้แน่ใจว่าไม่ใช่แท็กซี่เถื่อนซึ่งผิดกฏหมายและมักจะโกงผู้โดยสาร
  • วิธีการเลือกแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง จุดที่ 1 ให้สังเกตป้าย “Taxi Parisien” บนหลังคาที่มีปุ่มไฟเล็กๆ 3สีอยู่ด้านใต้ จุดที่ 2 สังเกตหมายเลขใบอนุญาตทางด้านข้างรถฝั่งขวาหน้า ที่สำคัญที่สุด แท็กซี่ทุกคันต้องมีมิตเตอร์
  • ปุ่มไฟ A, B, C 3สีที่อยู่ใต้ป้าย “Taxi Parisien” มีไว้บอกอัตราราคา เช่น A คือช่วงเวลาวันจันทร์-เสาร์ 10โมงเช้าถึง5โมงเย็น C คือรอบดึกวันอาทิตย์ซึ่งจะมีราคาแพงกว่า
  • คนขับรถแท็กซี่ในปารีสขึ้นชื่อเรื่องไม่เป็นมิตรกับผู้โดยสารเท่าไรนัก ใครเจอคนขับนิสัยดีหรือช่างคุยให้รู้ตัวไว้เลยว่าโชคดีมาก
  • มิเตอร์แท็กซี่ปารีสเริ่มต้นที่ 2.20 ยูโร ค่าโดยสารขั้นต่ำอยู่ที่ 6.10 ยูโร
  • แท็กซี่ปารีสจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ 3 คน หากต้องการเพิ่มคนที่ 4 ขึ้นมาต้องจ่ายค่าบริการเพิ่ม 2.95 ยูโร และสำหรับกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระขนาดใหญ่ ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าบรรทุกเพิ่ม 1 ยูโรต่อชิ้น
  • การเรียกแท็กซี่ที่ปารีส ต้องเรียกที่ taxi stand หากผู้โดยสารโบกแท็กซี่นอกป้ายถึงแม้จะใกล้ป้ายแค่ไหนแท็กซี่ก็จะไม่รับ เพราะการรับผู้โดยสารนอกป้ายในบริเวณ 50 เมตรจาก taxi stand ถือว่าผิดกฏหมาย
  • การเดินทางด้วยแท็กซี่จากสนามบิน Charles de Gaulle ไม่ควรแพงกว่า 150 ยูโร ถ้าคนขับเรียกมากกว่านั้นหมายถึงเขากำลังโกงคุณ

[hr align=”center” style=”dotted”]

Mumbai taxi - by Hello Tally  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Mumbai taxi - by six eight  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Mumbai, India

  • แท็กซี่หลักของเมืองมุมไบเป็นสีเหลือง-ดำ และไม่มีแอร์
  • แท็กซี่เหลือง-ดำของมุมไบหลายคันไม่มีกระจกมองข้าง บางคันถอดออก บางคันพับไว้ หรือบางคันถูกชนหัก เชื่อว่าเพราะคนขับส่วนใหญ่อาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องมี เพราะมารยาทการขับรถในอินเดียจะใช้การบีบแตรเพื่อสื่อสารบอกตำแหน่งกัน
  • แท็กซี่รุ่นคลาสสิคที่เห็นได้ทั่วไปที่นี่คือรถ Premier Padmini ที่ผลิตในอินเดียตั้งแต่ช่วงปีค.ศ. 1964 แต่ตอนนี้ทางรัฐกำลังดำเนินการโละรถแท็กซี่ที่มีอายุเกิน 20 ปีออกจากถนน ทำให้ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้อาจไม่เหลือแท็กซี่รุ่นย้อนยุคนี้ให้เห็นกันอีกแล้ว
  • มิเตอร์บนแท็กซี่เริ่มต้นที่ 21 รูปี (ประมาณ 11 บาท) และจะปรับเป็น 26 รูปี (ประมาณ 13 บาท) หลังสามทุ่ม
  • คนขับมักจะพยายามขอคิดราคาเหมา (เหมือนบ้านเรา) ผู้โดยสารสามารถยืนยันที่จะขอคิดราคาตามมิเตอร์ได้
  • คนขับมักจะพยายามขอทิปจากผู้โดยสารเสมอ หลายคนที่มุมไบเรียกทิปว่า “Good Luck” ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจคิดว่ามันคือการให้ “โชคลาภ” ก็เป็นได้
  • ตามกฏหมายแล้ว ที่มุมไบคนขับแท็กซี่ไม่มีสิทธิปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านระยะทางหรือเวลา
  • ปี 2014 เป็นครั้งแรกที่มุมไบเปิดให้ผู้หญิงสมัครเป็นคนขับแท็กซี่ได้ โดยมีผู้หญิงสนใจมาสมัคร 221 คนและมีสาวประเภทสอง 3 คน
  • ปัจจุบันมุมไบกำลังประสบปัญหาแท็กซี่ที่ลดจำนวนลงมากเนื่องจากทางรัฐไม่ออกใบอนุญาตขับขี่รถแท็กซี่เพิ่ม แต่ในความเป็นจริงแท็กซี่ก็ยังล้นมุมไบ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนบนถนนก็มีแต่แท็กซี่ (จากผลสำรวจเมื่อปี 2008 มีแท็กซี่ในมุมไบประมาณ 56,000 คัน)
  • นอกจากแท็กซี่เหลือง-ดำ ในมุมไบยังมีแท็กซี่มิเตอร์เอกชนติดแอร์หลายเจ้า บางคนที่นั่นจะเรียกว่า Cool Cab ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้า-เงิน ซึ่งจะมีค่าบริการสูงกว่าแท็กซี่ทั่วไป 25% นอกจากนี้ยังมี Call Cab หรือแท็กซี่ที่ต้องโทรเรียกหรือจองจากอินเตอร์เน็ตซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่มในส่วนของการขับมารับอีกด้วย

Shanghai Taxi - by Andrew Rochfort  |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Shanghai taxi - by p2wy |"วิถีแห่งแท็กซี่" จากเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ควรรู้ไว้ก่อนเดินทาง

Shanghai, China

  • เมืองเซี่ยงไฮ้มีแท็กซี่มากกว่า 50,000 คัน ไม่รวมแท็กซี่เถื่อนซึ่งวิ่งรับผู้โดยสารโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอยู่มากมายในเมือง
  • วิธีสังเกตแท็กซี่เถื่อนคือคนขับมักจะเข้ามาหาลูกค้าเอง บนรถจะไม่มีมิเตอร์ และไม่มีสัญลักษณ์ของบริษัทแท็กซี่อยู่ที่ด้านนอกตัวรถ
  • ถ้ามีตัว X เป็นตัวหนังสือตัวที่ 2 บนป้ายทะเบียนรถ หมายถึงแท็กซี่คันนั้นเป็นรถยนต์ส่วนตัว
  • คนเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงแท็กซี่สีแดง ซึ่งส่วนมากจะเป็นรถเก่าที่คนขับมักจะหยาบคาย นอกจากนี้ยังมีมีการโกงมิเตอร์อีกด้วย
  • แท็กซี่ส่วนใหญ่ในเซี่ยงไฮ้เป็นรถ Volkswagen ซึ่งมีโรงงานการผลิตอยู่ที่เซี่ยงไฮ้นั่นเอง
  • ในรถแท็กซี่ทุกคันจะมีบัตรประจำตัวคนขับแสดงอยู่ หมายเลขประจำตัวบนบัตรแสดงถึงระยะเวลาที่คนขับคนนั้นทำงานกับบริษัทแท็กซี่มา ตัวเลขยิ่งมากหมายถึงขับมานานและมีประสบการณ์มาก ณ ปี 2013 หมายเลขที่สูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 350,000
  • ใต้หมายเลขบนบัตรประจำตัวคนขับจะมี “ดาว” อยู่ ดาวจะแสดงถึงความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของคนขับ ถ้าน้อยกว่า 3 ดาวหมายถึงพอสื่อสารได้แต่ไม่ค่อยเก่ง ถ้า 5 ดาวหมายถึงใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว (ซึ่งพบได้ค่อนข้างยาก) การจะได้ดาวมา คนขับแท็กซี่ต้องทำการสอบ เพราะฉะนั้นใครไม่มีดาวเลย อาจไม่ได้แปลว่าพูดอังกฤษไม่ได้ แต่หมายถึงคนขับคนนั้นไม่ได้ไปสอบมา
  • การสอบเป็นคนขับแท็กซี่ ไม่ได้วัดแค่ความรู้ภาษาอังกฤษ แต่ยังวัดระดับความรู้ด้านถนนหนทาง และสถานที่สำคัญต่างๆของเมือง ตลอดจนมารยาทในการสื่อสาร ดังนั้นใครโชคดีเจอแท็กซี่ 5 ดาวก็ยิ้มได้เลย 

[hr align=”center” style=”dotted”]

Image credit: Eric (main), Randy Caldwell (1 : NYC), Giusy (2 : NYC), Jon Lenzmeier (3 : Tokyo), Rak’s Photography 楽 (4 : Tokyo), Eric Pang (5 : London), Mei Ying Chan (6 : London, axel_mazerolles (7 : Paris), nina’s clicks (8 : Paris), Hello Talalay (9 : Mumbai),    sixeight (10 : Mumbai), Andrew Rochfort (11 : Shanghai), p2wy (12 : Shanghai)

Magazine made for you.