Roadtrip นิวซีแลนด์ ขับรถเที่ยว 23 วัน ทั่วเกาะใต้ Part 1

แรกเริ่มเดิมที นิวซีแลนด์ ก็เป็นแค่ดินแดนในฝัน เคยเห็นรูปที่คนอื่นไปมา โอ้โห! มันสวยมากอ่ะ วิวภูเขา ทุ่งหญ้าและฝูงแกะ อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองซักครั้ง แต่ยังไม่มีโอกาส จนวันนึงมาคุยกับเม เพื่อนสนิทตั้งแต่ ป2. “ไปนิวซีแลนด์กันมั๊ย” เมถามขึ้นมาเล่นๆ “พูดจริงพูดเล่น ไปจริงนะเว้ย” มารู้สึกตัวอีกทีก็จองตั๋วไปเรียบร้อยแล้ว กำหนดการคือไปหาเมที่เมลเบิร์นก่อน แล้วค่อยออกเดินทางไปนิวซีแลนด์พร้อมกัน (เมอยู่เมลเบิร์นเกือบ10 ปีจนได้เป็นพลเมืองที่นั่นละ) ทริปนี้เราจะเดินทางด้วยรถบ้าน ตะลุยเกาะทางตอนใต้ทั้งหมดของนิวซีแลนด์กินนอนอยู่ในนั้นเป็นเวลา 23 วัน มีสมาชิคร่วมผจญภัยทั้งหมด 4 คน ก็คือเรา(ดาว) ตาล เม และเจต (แฟนเม) เนื่องจากเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างจะยาวนาน เราจะสรุปเรื่องราวการเดินทางคร่าวๆทั้งหมดไว้ในตอนแรก และรายละเอียดปลีกย่อยกับคลิปวีดีโอจะตามมาในตอนที่สองนะคะ

เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางและใช้ชีวิตกินนอนในรถบ้าน ก็คงเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดกันบ้าง อย่างแรกเลย เริ่มจากรถมีขนาดใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก (ยาว 7.7 เมตร) ข้อดีคือพวกเรา4คน อยู่กันได้แบบสบายๆไม่อึดอัด แต่ข้อเสียคือ รถใหญ่ขนาดนี้เวลาขับบนถนนของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งคดเคี้ยวเลี้ยวลด เหมือนงูกินหาง เวลาเจอโค้งทีนึง ด้านหลังของรถมันจะเหวี่ยง ทำให้คนนั่งหลังเกิดอาการเมารถได้ง่ายๆ

เลยอยากจะขอเตือนว่าใครจะวางแผนเที่ยวทริปรถบ้าน ที่ขาดไม่ได้คือยาแก้เมารถค่ะ สำคัญมากจริงๆห้ามลืมเด็ดขาด!! สิ่งที่ไม่คาดฝันอย่างที่สองคือ เข้าใจว่าในรถบ้านมีที่ชาร์ตไฟเหมือนบ้าน จริงๆแล้วไม่มีนะ ไฟและน้ำในรถมีจำนวนจำกัด เปรียบเทียบง่ายๆให้เห็นภาพ ไฟที่มีในรถเหมือนแบตมือถือ ใช้ไปนานๆไม่ชาร์ตเพิ่ม ไฟก็หมด ส่วนน้ำก็เหมือนมีน้ำในกระติก พอสำหรับใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น แล้วในแผนการเดินทางเรานอนในป่าเป็นหลัก สองสามวันถึงจะนอนในที่ๆชาร์ตไฟและเติมน้ำได้!! เท่ากับว่าแบตมือถือ แบตคอม แบตกล้อง ต้องใช้อย่างประหยัด รวมทั้งน้ำก็จะไม่ได้อาบทุกวัน การผจญภัยที่แท้จริงทำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!! วู้ฮู้~!!!

1

2

3

4

ครึ่งวันแรกของการเดินทางอากาศดี๊ดี แดดออก ฟ้าใส ถึงแม้จะเมารถแต่ทัศนียภาพนอกรถก็ทำให้เรายิ้มได้ วิวข้างทางสวยมาก ท้องฟ้าสีฟ้าตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียว มีฝูงแกะนับร้อยตัวกำลังเล็มหญ้าอยู่ มองแล้วคิดในใจนี่เรามาถึงนิวซีแลนด์แล้วจริงๆด้วย ยิ้มกันแบบไม่หุบ ดูวิวกันแบบเพลินๆทำให้ลืมปวดหัวไปได้บ้าง

5

6

เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีฝนตกหนัก หมดกันท้องฟ้าสวยๆของชั้น เจอแต่เมฆและความมืดครึ้ม สามวันแรก ฝนตกฟ้ามืดตลอด มีเสียงฝนคอยกล่อมก่อนนอนทุกคืน ระหว่างการเดินทาง ส่วนมากถ้าเจอวิวสวยๆและมีที่จอดได้ เจตจะจอดริมถนนให้แวะถ่ายรูปข้างทางเป็นระยะ ชอบนะ ลุ้นดี ว่าเราจะเจออะไรบ้างกับทางข้างหน้า อะไรทีไม่ได้แพลนไว้ก่อน มักจะน่าตื่นเต้นเสมอ : )

7

8

9

ที่แรกที่แวะไปคือ Paparoa National Park ทางเข้าที่นี่มีต้นไม้หน้าตาประหลาดทรงสูงเรียงรายอยู่สองข้างทาง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในไร่ข้าวโพดไม่มีผิด เดินเข้าไปเรื่อยๆซักประมาณ 15 นาที จะเจอวิวทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา และผาหินตั้งตระหง่าน ทำให้รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ลม ฝน และน้ำทะเลกัดเซาะหินให้เป็นรูปเป็นร่างคล้ายสัตว์ในตำนาน ลองเทียบๆดู เออ เหมือนจิงๆด้วย

10

11

12

ที่ต่อมาคือ Abel Tasman National Park มองไปรอบๆ ที่นี่คล้ายกับทุ่งหญ้าในทะเลทราย อาจเป็นเพราะว่าสีของต้นหญ้าเป็นสีน้ำตาลทำให้รู้สึกว่าบรรยากาศสวยแบบลึกลับ ที่นี่เราจะเจอลำธารขนาดเล็ก ทะเล ป่า เดินเข้าไปได้กลิ่นหอมของดินหลังฝนตก ชื่นใจจริงๆ

13

14

15

มีอยู่วันนึง ในขณะที่กำลังนั่งมองวิวจากในรถกำลังเพลินๆ เอี๊ยดด!! เจตจอดรถแบบไม่ทันตั้งตัว หัวเกือบทิ่ม เรา : จอดทำไมอ่ะเจต มีอะไรป่าว เจต : เหมือนมีจุดดำๆอะไรริมทะเลเต็มเลย ไม่รู้ตัวอะไร ลงไปดูกันมะ แล้วพวกเราก็พร้อมใจกันลงจากรถ เดินไปสามก้าว ชะโงกหน้าไปดู เฮ้ย!! แมวน้ำ 55555 แมวน้ำตัวอ้วนที่กำลังนอนคุยเล่นกับเพื่อนเพลินๆ หันมามองเพราะตกใจเสียงพวกเรากรี๊ดกร๊าด พวกมันไม่ได้อยู่แค่ริมทะเล นอนเอกเขนก หยอกล้อกันอยู่พงหญ้าติดกับที่จอดรถเลย เกิดมาเพิ่งจะได้ใกล้ชิดแมวน้ำขนาดนี้ สนุกกันมาก มารู้ทีหลังเพราะเรากำลังเข้าสู่เขต Kaikoura แล้วนั่นเอง ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของแมวน้ำ มีเยอะมาก แล้วก็ชอบมาใกล้คนด้วย ไม่กลัวเลย

16

17

18

แถวๆ Point Kean Carpark ก็จะมีแมวน้ำเพียบเหมือนกัน พวกมันเดินไปมา มุดใต้ท้องรถคันโน้น โผล่มาคันนี้ บางตัวยืนสู้กล้องให้ถ่ายรูปซะด้วย ไม่ธรรมดาเลยแมวน้ำที่นี่ กันเองมาก ใกล้ๆกันจะมีทางขึ้นไปบนยอดเขา Kaikoura Peninsula Walkway ใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมง เห็นวิวข้างบนแล้ว โอ้โห!! รักเลยอ่ะ วิวสวย เห็นทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทางเดินขึ้นไปเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง ปกติเคยเห็นแต่ในหนัง มาเจอของจริงเลยฟินมาก ประทับใจที่นี่สุดๆ วิ่งเล่นในทุ่งกันสนุกสนาน ไม่ควรพลาดนะที่นี่ แนะนำให้มาให้ได้

19

20

21

22

23

ทริปนี้นอกจากเจอแมวน้ำแบบใกล้ชิดสนิทสนมแล้ว ตอนไปที่เมือง Hanmer Springs ยังเจอเป็ดด้วย ไม่ใช่ตัวสองตัว แต่มาเป็นฝูง เป็นร้อยๆตัวเลยอ่ะ พวกมันวิ่งเล่นไปมา บินเล่นน้ำอยู่ที่บึงกลางเมืองเลย

24

25

เมืองนี้บรรยากาศดูผู้ดี๊ ผู้ดี มีโรงแรมสวยๆ มีน้ำพุร้อนให้แช่ มีร้านน่ารักๆ เป็นเมืองที่เหมาะกับการใช้ชีวิตแบบ slow life มากๆ พวกเราได้ลองขี่จักรยานหมู่กันด้วย ที่เรียกว่าจักรยานหมู่เพราะต้องใช้แรง4คนช่วยกันปั่นหลบรถ ขึ้นเขา ยิ่งตอนลงเนินไม่ต้องพูดถึง เสียวมว๊ากก เบรกกันตัวโก่ง ลุ้นสุดๆไม่ใช่อะไร กลัวเบรกไม่อยู่แล้วจะลอยข้ามเลนไปโดนรถเสยได้ แต่ยังไงก็สนุกมากๆอยู่ดี อากาศหนาวแต่ปั่นจนเหงื่อออกเลย เป็นวิธีแก้หนาวที่ได้ผลดีมาก เดี๋ยวรอดูในวีดีโอนะ

26

27

ที่ต่อมาก็เป็นอีกหนึ่ง Hilight ที่ไม่ควรพลาด ที่ Hokiitika George จะมีสะพานยาวๆข้ามแม่น้ำสีฟ้า เค้าเล่ากันว่าสาเหตุที่น้ำเป็นสีฟ้าขนาดนี้ก็เพราะ ตรงนี้เป็นจุดต้นน้ำที่ธารน้ำแข็งละลายลงมาพอดี สีฟ้ามันฟ้าได้ใจม๊าก มาก เห็นแล้วอยากกินไอติมขึ้นมาเลย

28

29

30

วันรุ่งขึ้นเลยขอไปดูธารน้ำแข็งของจริงที่ Franz Josef Glacier ซักหน่อยว่าจะเป็นยังไง เราต้องใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงที่หมาย บรรยากาศรอบๆทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์ ตาลบอกว่าเหมือนที่คุมขังนักโทษ Zod ในเรื่อง Superman ยังไงอย่างงั้น ภูเขาสูงตระหง่านขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงหน้า ทางเดินมีแต่ก้อนหินที่มีตะใคร่สีเขียวจับอยู่ มีบางจุดที่ต้องเดินขึ้น ทางชัน ขรุขระ และเดินลำบากมาก ค่อนข้างอันตรายเลยแหละ ลื่นล้มเอาได้ง่ายๆ มีป้ายเตือนระวังน้ำแข็งหล่นทับตลอดทางด้วย ใครจะมาที่นี่ขอให้เตรียมร่างการและรองเท้าให้พร้อม อย่าซุกซน ห้ามเดินออกนอกเส้นทางเด็ดขาด

31

32edit

33

34

35

มีความรู้สึกว่ายิ่งขับลงตอนใต้ของเกาะมากขึ้นเท่าไหร่ อากาศก็ยิ่งหนาวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ รวมถึงวิวทิวทัศน์ก็ยิ่งสวยขึ้นด้วยเช่นกัน

36

37

38

39

40

41

มีอีกที่นึงที่ประทับใจมาก ส่วนใหญ่คนที่วางแผนมาเที่ยวเกาะใต้ของ นิวซีแลนด์ มักจะไม่พลาดจุดนี้ก็คือ Lake Matheson ที่นี่มีทะเลสาบน้ำสีดำ ไม่รู้ทำไมถึงดำเหมือนกัน แต่เพราะความดำทำให้เงาสะท้อนของน้ำชัดและสวยมาก พูดเลยว่าให้นั่งอยู่ที่นี่ทั้งวันก็ไม่เบื่อ อยากมองนานๆ ไม่อยากจะละสายตาเลย ดูรูปแล้วจะรู้ว่าทำไม เหมือนมีมนต์สะกดจริงๆ

42

43

44

เมือง Wanaka เป็นเมืองเล็กๆริมทะเล ที่เราจะต้องขับผ่าน เลยแวะลงไปเดินเล่น จิบกาแฟซักหน่อย ไหนๆผ่านมาแล้ว ที่นี่มีร้านอาหาร ร้านไอติม และร้านกาแฟให้นั่งชิลเยอะ มีสวนสาธารณะที่มีไดโนเสาร์ตั้งอยู่ด้วย Intrendมาก กำลังมีหนังJurassic worldอยู่พอดี เด็กๆคงชอบ ที่นิวซีแลนด์สังเกตุได้เลยนะ ที่ไหนมีทะเลมีทะเลสาบ ที่นั่นจะมีเป็ด!!

45

46

47

วันที่ทรหดที่สุดของทริปน่าจะเป็นวันนี้ วันที่พวกเราตัดสินใจเดินขึ้น Roy Peak เค้าว่ากันว่ากว่าจะเดินถึงยอดเขาต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง กลับอีก3ชั่วโมง รวมเวลาเดินทางทั้งสิ้น เท่ากับ 6ชั่วโมง พอเอาเข้าจริงทางทรหดกว่าที่คิดไว้หลายเท่า บางจุดทางขึ้นแคบและชันมาก เดินพลาดนิดนึงหล่นแน่นอน “จุดหมายปลายทางช่างดูห่างไกลยิ่งนัก” ตาลพูดลอยๆขึ้นมา หลังจากที่เงยหน้าขึ้นไปดูที่ยอดเขา พร้อมถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ๆ เดินไปได้ซักครึ่งชั่วโมง หันไปเจอ ตาลหอบแฮ่กๆ ส่วนเรารู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อขากำลังร้องไห้ หันมามองหน้ากัน เอาไงดี!!ดูจากทรงแล้วสังขารคงไม่อำนวย หยุดที่ตรงนี้ละกัน ถ้าฝืนปีนขึ้นไปถึงยอดเขาแต่ไม่มีแรงปีนลงมาล่ะยุ่งเลย ดูวิวจากจุดนี่ก็สวยมากๆแล้ว ส่วนเมกับเจตขอลุยต่อ มารู้ทีหลังตอนเมโทรมาบอกว่า “ ข้ากำลังลงแล้วนะ ไม่ไหวแล้วว่ะ” เมเล่าว่าเดินขึ้นไปสองชั่วโมงแล้วยังไม่ถึงหนึ่งในสามของเส้นทาง เลยตัดสินใจลงเหมือนกัน (เห็นตอนมันวิ่งลงเขามา เร็วมากๅ อย่างกับติดจรวด) วันนี้เลยเหนื่อยหอบกันเป็นหมู่คณะ ไม่ไหวจริงๆ ไอที่เค้าบอกว่าขึ้นสามชั่วโมงถึงยอดเขา นี่มันคงเป็นมาตรฐานของนักปีนเขา ไม่ใช่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆแน่นอน ยังถึกไม่พอสินะ ขอฟิตร่างกายให้พร้อมกว่านี้ก่อนคอ่ยเจอกันใหม่ Roy peak!!!

48

49

50

51

ติดตาม New Zealand Roadtrip ขับรถเที่ยว 23 วัน ทั่วเกาะใต้ Part 2 ได้เร็วๆนี้


About the Author

Dao

Dao loves traveling and anything adventurous even though she does not appear like someone who does. She believes that nothing lasts forever, so she spends each day doing her best, following her dreams, staying happy and now she has started her travel blog. She believes that happiness is everywhere, one only needs to know how to look at things and appreciate what one has.

4 Comments

  • Amp

    So wonderful, i hope you enjoy and have travel guide trip forever.

    • dAo

      Sorry just saw your post thank you sooo much!! : )

  • Kirana_M

    สอบถามหน่อยได้มั๊ยคะ ว่าไปช่วงไหนมาเอ่ย รูปสวยมากค่ะ สวยลืม อยากไปช่วงกค.ปีหน้า แต่กังวลเรื่องการขับรถจะเจอหิมะ
    ขอบคุณมากค่า

  • zabi

    ภาพสวยมากเลยค่ะ

Comments are closed.

Magazine made for you.