Roadtrip นิวซีแลนด์ ขับรถเที่ยว 23 วัน ทั่วเกาะใต้ Part 2

อยู่กับป่าเขาและธรรมชาติมาเยอะแล้ว พอเข้ามาถึง Queenstown เจอบ้านเมือง เจอผู้คนบ้าง ก็รู้สึกสดชื่นดี ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยว คนนิยมมาเล่นสกีที่นี่ วันที่เรามาตรงกับวันหยุดพอดี เลยได้เดินเล่นที่ตลาดนัดวันหยุด ชาวบ้านที่อาศัยแถวนั้นเอาของ Handmade เก๋ๆออกมาขายกัน ของน่ารัก บรรยากาศชวนให้ยิ้มจริงๆ

52

53

54

55

56

กิจกรรมที่ Queenstown เราได้ไปล่องเรือดูสัตว์ต่างๆ เจอทั้งกวางเรนเดียร์หนุ่ม มีเขาที่สวยงาม กระทิงป่า ตัวอัลปาก้า เพิ่งเคยเห็นตัวจริงครั้งแรก หน้าตาแปลกๆทั้งนั้น ได้ให้อาหารพวกมัน และได้พักดื่มชาด้วย ประทับใจและสนุกมาก ที่ตลกคือเค้าโชว์ให้ดูเวลาหมาต้อนแกะ คือเห็นเลยว่าแกะกลัวจนตัวสั่น น่าสงสารและตลกในเวลาเดียวกัน เราสังเกตุสายตาของหมาเวลาต้อนแกะนะ โห ตาจิก แอ๊คท่าอย่างกับว่าตัวเองเป็นหมาป่าเลยอ่ะ ให้ความรู้สึกถึงความเป็นนักล่าอย่างแท้จริง ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่ารัก ได้เจอและใกล้ชิดกับสัตว์พวกนี้

57

58

59

60

61

ถ้าจะให้เปรียบ Queenstown เหมือนผู้หญิง ก็คงเป็นผู้หญิงที่สวย น่าค้นหา มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ สวยยิ่งกว่าภาพวาดที่เคยเห็นซะอีก ที่นี่มีร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังที่อร่อยขั้นเทพและไม่แพงเลย ถ้ามาแล้วห้ามพลาด Fergburger แนะนำให้ลองเบอร์เกอร์แกะและเบอร์เกอร์ปลา อร่อยจนหยุดยิ้มไม่ได้ ที่นี่คนแน่นมาก เปิดมาจะ15ปีแล้ว พอกินเบอร์เกอร์เสร็จขอให้เดินไปกินของหวานต่อที่ร้าน Cookie Times ปกติเป็นคนไม่ชอบกินคุ๊กกี้นะ แต่ชิมคุ๊กกี้ที่นี่แล้วต้องยอมแพ้ อร่อยมากๆ ยิ่งอันที่เพิ่งอบจากเตาและกินพร้อมนมสดนะ หื้มมม สุดๆอ่ะ ไม่อ้วนให้มันรู้ไป

62

63

64

65

66

ที่ต่อไปคือ Glenorchy วันที่ไปถึงอากาศหนาวและลมแรงมาก เรียกได้ว่าน้องๆพายุ แรงจนพัดขาตั้งกล้องล้มเลยอ่ะ แต่คุ้มค่ามากที่ได้มา บรรยากาศของที่นี่ สวย สงบ บ้านไม้หลังเล็กๆตั้งอยู่ด้านหน้า ใกล้ๆกันมีสะพานไม้ทอดยาวให้เดินออกไปชมวิวทะเล ด้านหลังเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทอดยาวสุดสายตา เป็นความเรียบง่ายที่ลงตัวและที่มีเสน่ห์ที่สุด สวยแบบซึ้งๆ บรรยากาศโรแมนติคมาก เหมาะที่จะมาเดินจูงมือ สวีทกับแฟนบนสะพานนี้

69

70

71

ทางผ่านอีกจุดนึงที่ชอบมากๆคือที่ Te Anau ประทับใจต้นไม้ที่นี่ ต้นใหญ่ texture สวย แค่เห็นก็รู้สึกผ่อนคลายแล้ว แอบไปยืนพิงรับพลังธรรมชาติมาด้วย ข้างๆแนวต้นไม้จะเป็นทะเลสาบที่มีภูเขาอยู่ด้านหลัง เสียดายวันที่ไปฝนใกล้จะตก ท้องฟ้าเป็นสีเทาๆ หมอกลงบังภูเขามิดเลย

72

73

74

มีอยู่วันนึงในระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่ หิมะตกมาเฉยเลย ตกมาแบบไม่ได้ตั้งตัว พวกเรารีบจอดรถออกไปเล่นหิมะ ถ่ายรูปเล่นกัน สนุกจนลืมหนาว ตอนนั้นถ้ามีเฮลบลูบอยเราคงได้กินน้ำแข็งใสเวอร์ชั่นหิมะไปแล้ว

75

76

77

78

พวกเราได้ลงเรือเป็นครั้งที่สองที่ Milford Sound สัญลักษณ์ของที่นี่คือจะมีภูเขาแหลมๆ สะท้อนน้ำสวยงาม เราลงเรือไปเพื่อไปดูวิวทะเลสาบ ภูเขาและน้ำตกอย่างใกล้ชิด แต่ตอนอยู่บนเรือครั้งนี้เราเฉยๆนะ มันไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ชอบตอนลงเรือไปดูฝูงแกะกับกระทิงมากกว่า

นิวซีแลนด์

80

81

อีกวันนึงที่มีความสุขมากๆ ก็คือวันที่ได้ไปเมือง Arrow Town ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆตกแต่งสไตล์วินเทจ มีภูเขาและลำธารเล็กๆ พูดได้ว่าเป็นเมืองในฝัน น่ารักน่าอยู่จริงๆ อาจเป็นเพราะหิมะตกด้วย บรรยากาศรอบข้างก็เลยเปลี่ยนไป หันไปทางไหนก็สวยไปหมด เวลาเห็นหิมะกองบนหลังคาบ้านแล้วชอบอ่ะ บ้านดูน่ารักขึ้นมาทันที ถึงกับมโนกันว่าอยากเก็บตังซื้อบ้านที่นี่กันเลยทีเดียว เอ๊า ตื่นๆ!!

82

83

84

85

วันนี้พวกเราตกลงใจ ขอทำตัวกลมกลืนกับสถานที่ โดยเลือกเข้าไปทานอาหารเช้าในร้านฝรั่งเศสดั้งเดิม เอ่อ มา นิวซีแลนด์ เดินเข้าร้านฝรั่งเศสมันใช่หรา 5555 แต่ก็ไม่ผิดหวังนะ ร้านนี้ตกแต่งน่ารัก เจ้าของเป็นคนฝรั่งเศส อาหารเช้าที่มาเสริฟก็เลยมาเป็นแนวฝรั่งเศสแท้ๆ อร่อยมากเลย ไม่แพงเท่าไหร่ด้วย

86

87

88

เนื่องจากเป็นคนชอบถ่ายรูปดาวมาก แต่สภาพอากาศและท้องฟ้าตอนไปทริปไม่ค่อยจะอำนวยซักเท่าไหร่ เพราะอากาศหนาวจัด บางคืนก็ติดลบ ทำให้การขยับตัวออกจากรถเป็นเรื่องยาก สั้นๆก็คือขี้เกียจนั่นเอง และส่วนมากท้องฟ้าไม่ค่อยโปร่งใส มองเห็นแต่เมฆดำๆ ทั้งทริปรูปดาวที่ได้เลยมีแค่ไม่กี่รูปเอง แต่มีช้างเผือกมาเป็นของแถม แค่นี้ก็ดีใจแล้วอ่ะ

90

91

92

95

ก่อนจะจบทริปเราได้เปลี่ยนบรรยากาศจากนอนในรถบ้าน เป็นนอนที่ Backpacker Lodge สองคืน รู้เลยว่าสวรรค์มีจริง การที่ได้นอนในห้องที่มีประตูปิดมิดชิด มีฮีตเตอร์เปิดตลอดคืนท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บนั้น เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว หลับสบายมากกก ไม่หนาวเหมือนตอนนอนในรถบ้าน ที่นี่พวกเราได้ดื่มด่ำกับวิว Mt Cook เต็มๆ ภูเขาขนาดใหญ่ สวยสง่า ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า คิดภาพว่ายืนอยู่หน้าภูเขา ค่อยๆเงยหน้ามองขึ้นไป อารมณ์เหมือนดูหนังสามมิติแถวแรก!! คือเข้าใจว่าชัดเต็มสองตาก็วันนี้ มันไม่รู้จะอธิบายยังไง ให้สมกับคำว่า สวยอลังการ ที่นี่เราได้ไปTrekkingด้วย เป็นการเดินที่ยาวนานเหมือนกัน เดินไปกลับ 4 ชั่วโมง เราไม่สนว่าปลายทางจะเจออะไร เมกับเจตชวนเดินก็เลยมาเดิน แค่มองวิวสองข้างทางระหว่างที่เดินไป ก็มีความสุขมากแล้ว

97

98

99

100

เดินไปจนสุดทางเราเจอกับทะเล ใครลงไปว่ายเล่นคงจะแข็งตาย เพราะในนั้นมีก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์อยู่เป็นหย่อมๆ เมื่อก่อนคงจะก้อนใหญ่กว่านี้แน่ๆ แต่เนื่องจากโลกร้อนมากขึ้น มันก็เลยละลายเหลืออยู่เท่าที่เห็น ก้อนน้ำแข็งจะกระจัดกระจาย ริมทะเล แทนที่จะเป็นหาดทรายก็มีแต่น้ำแข็งเต็มไปหมด ลำพังลมทะเลหน้าหนาวก็หนาวมากอยู่แล้ว นี่เป็นลมทะเลหน้าหนาวที่มีน้ำแข็งอยู่ในนั้นด้วย โหววว!! อย่าถามว่าหนาวมั๊ย หน้าชา มือชา ขาชา รีบถ่ายรูปแล้วก็รีบเดินกลับด่วนๆเลย

101

102

103

104

ที่สุดท้ายก่อนลาจาก นิวซีแลนด์ ก็คือที่ Lake Tekapo เป็นอีกที่ที่ประทับใจมากๆ เราว่าทะเลสาบที่นี่เปลี่ยนสีได้ตามแสงอาทิตย์ วันที่มาถึงเป็นช่วงเย็น ที่นี่ก็ดูสวยงามเหมือนทะเลสาบทั่วไป

105

106

ตื่นเช้ามาฝนตกหนักมองไปที่ทะเลสาบสีของมันก็ยังดูปกตินะ แต่พอฝนหยุดเท่านั้นแหละ น้ำจากสีปกติกลายเป็นสีฟ้าอ่อนๆเลย สีตัดกับโบสถ์และท้องฟ้า ส ว ย ม า ก จริงๆ เห็นแล้วอาลัยอาวรณ์ ไม่อยากจะกลับเล้ย

107

108

109

110

111

ปกติหน้าร้อนของที่นี่จะมีดอกไม้สวยๆที่ชื่อลูปินขึ้นเต็มไปหมด ตอนนี้เป็นหน้าหนาวก็พอมีให้เห็นบ้าง มีไม่มากแต่ก็ดีใจที่ได้เห็นดอกจริงๆของมันซักที

112

113

ก่อนกลับเราแวะขับรถขึ้นไปบนยอด Mt John ที่นี่มีร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารักอยู่บนสุดของยอดเขา ชื่อ Astro Café ตอนขึ้นไปฝนตกพรำๆ มองไม่เห็นวิวอะไรเลย มีแต่หมอกขาวๆ นั่งอยู่ซักพักกำลังเพลินกับ hot chocolate แสนอร่อย หันออกไปมองเห็นแสงแดดอ่อนๆ ค่อยๆไล่มา จากหมอกที่มืดทึบ เผยให้เห็นท้องฟ้าสีฟ้าสดใส แค่นั้นยังไม่พอ รุ้งกินน้ำวงเบ้อเริ่มโค้งเป็นอยู่เหนือหอดูดาวตรงหน้า ตอนนั้น อ้าปากค้างตะลึงกับความสวยอยู่ 3 วิ นึกขึ้นได้เลยรีบหยิบกล้องมากดชัตเตอร์รัวๆ

114

115

116

หลังจากที่ถ่ายรูปเล่นกันจนพอใจแล้ว ก็เลยขอถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกอีก1รูป ทุลักทุเลนิดหน่อยเพราะใช้ตั้งขากล้อง แล้วก็รีบปีนขึ้นไปบนหิน กลัวตกเหมือนกัน กว่าจะปีนขึ้นไปครบทุกคน หมอกก็กำลังกลับมาอีกแล้ว พอถ่ายเสร็จดูรูป หัวเราะกันใหญ่ รูปหมู่พวกเรา วิวด้านหลังมองไม่เห็นทะเลสาบซะแล้ว กลายเป็นวิวหมอกแทน อย่างงี้ทุกทีสินะ เวลาแห่งความสุขมักจะหมดเร็วเสมอ แต่ทุกๆครั้งที่ย้อนมาดูรูปก็อดยิ้มคนเดียวไม่ได้ เพราะรูปทุกใบมีความทรงจำอยู่ในนั้น นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เราชอบถ่ายรูป : )

117

และแล้วทริปรถบ้านตะลุยดินแดนในฝัน ก็จบลงอย่าง Happy Ending เราต้องขอบคุณเมมากๆที่ดูแลจัดการวางแผนการเดินทางครั้งนี้ และขอบคุณเจตที่รับหน้าที่เป็นสารถีพาไปยังสถานที่สวยๆรอบเกาะใต้ของ นิวซีแลนด์ ทำให้พวกเราได้มีความทรงจำดีๆร่วมกัน

ขอบคุณมากๆที่อ่านจนจบ ถ้าได้ไปเที่ยวที่ไหนที่น่าสนุก จะแวะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังอีกค่ะ ส่วนข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับรถบ้าน และค่าใช้จ่ายให้ดูรายละเอียดที่ whenwewander.com ได้เลยค่ะ

New Zealand Roadtrip Guide


About the Author

Dao

Dao loves traveling and anything adventurous even though she does not appear like someone who does. She believes that nothing lasts forever, so she spends each day doing her best, following her dreams, staying happy and now she has started her travel blog. She believes that happiness is everywhere, one only needs to know how to look at things and appreciate what one has.

5 Comments

  • Ppppxx

    ใช้กล้องอะไรคะ รุปสวยมากๆ ปรับแสงยังไงคะ

    • dAo

      ขอโทษทีที่ตอบช้านะคะ ดาวเพิ่งเห็น แฮ่ะๆ ใช้กล้อง Canon 5D Mark3 ค่ะ เวลาถ่ายใช้โหมดAV ปรับแสงโปรแกรม Lightroomค่า : )

  • Watson L.

    Big Jet Plane – Augus & Julia Stone. I love this song!

  • Kzp.B

    อื้อหือ ใช้เพลง angus & Julia stone ด้วยย 🙂
    ชอบเหมือนกันเรยครับ

    ปล. เขียนรีวิวได้น่าอ่านมากเรย ภาพก็สวยครับ

Comments are closed.

Magazine made for you.