LISBON: เปิดตัว MAAT พิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาการริมน้ำแห่งใหม่ที่ลิสบอน

พิพิธภัณฑ์ ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีประลองฝีมือทางสถาปัตยกรรมในยุคนี้ ที่สถาปนิกระดับแนวหน้าของโลก ต่างเค้นความคิดสร้างสรรค์ล้ำยุคแปลกแหวกแนว ถ่ายทอดจินตนาการออกมาให้เราสัมผัสได้จริง แล้วหนึ่งในพิพิธภัณฑ์หน้าใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในยุโรปช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น MAAT ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2016 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าสิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกก็เห็นจะเป็นสถาปัตยกรรมล้ำๆ ที่ดึงดูดสายตานั่นเอง

MAAT หรือ The Museum of Art, Architecture and Technology เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งศาสตร์และศิลป์ที่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tagus ในเขต Belém ของกรุงลิสบอน ไม่ไกลจากหอคอยแห่งเบเลมและมหาวิหารเจโรนีโมซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง โดย MAAT วางตัวเองเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงประวัติศาสตร์ ศิลปะร่วมสมัย ตลอดจนนำเสนอวิสัยทัศน์ของงานสถาปัตยกรรม ไปจนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ สำหรับหัวเรือใหญ่ที่มารับหน้าที่เป็น Museum Director ของที่นี่ก็คือ Pedro Gadanho อดีต Curator คนสำคัญแห่ง MoMA นิวยอร์ก

lisbon© Lisbon Lux

ด้วยความที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนี่เอง “สายน้ำ” จึงเป็นที่มาของแรงบันดาลใจในการออกแบบอาคารนี้ที่เห็นได้ชัดตั้งแต่รูปทรงโค้งมนพริ้วไหวดุจเกลียวคลื่น ไปจนถึงส่วน façade ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุด เพราะผื้นผิวของอาคารนี้ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคนูนแบบ 3 มิติ ที่ได้รับการออกแบบพิเศษขึ้นมากว่า 15,000 แผ่น กระเบื้องแต่ละชิ้นถูกนำมาวางให้เหลื่อมกัน สะท้อนถึงผิวน้ำที่เต็มไปด้วยเกลียวคลื่นเล็กๆ มากมายตลอดเวลา ตัวกระเบื้องนั้นเป็นสีขาวล้วนเมื่อแสงแดดส่องในเวลาต่างๆ ก็จะสะท้อนแสงให้เฉดสีต่างกัน (โดยเฉพาะยามเช้าและยามเย็นที่แสงสีทองจะส่องจนทำให้อาคารอร่ามงดงามทีเดียว) เช่นเดียวกับแสงที่สะท้อนสายน้ำตามธรรมชาติ แล้วเหตุที่ทางสถาปนิกหยิบเอากระเบื้องเซรามิคมาใช้งานในคราวนี้ ก็เพราะนี่คือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีตกาลนั่นเอง

maat-edp© Lisbon Lux

maat-lisboa© Lisbon Lux

museu-edp© Lisbon Lux

miradouro-maat© Lisbon Lux

ตัวอาคารล้ำสมัยของ MAAT ที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ก็คือส่วนของอาคารที่ชื่อว่า Kunsthall ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบโดย AL_A ของ Amanda Levete สถาปนิกหญิงฝีมือดีอีกคนในยุคนี้ แลดูตัวอาคารจากภายนอกนั้นไม่สูงนักเพราะตัวพิพิธภัณฑ์จริงๆ คือพื้นที่ด้านล่างที่มุดลงไปใต้ดิน ส่วนบริเวณที่เราเห็นกันคือส่วนด้านบนของอาคาร ที่ถูกออกแบบให้เป็นเนินระเบียงยื่นออกไปริมน้ำให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถเดินเล่นขึ้นไปชมวิวด้านบนที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของเมืองเก่า ไปจนถึงวิวสวยๆ ของสะพาน 25 de Abril Bridge (ที่คล้ายกับสะพาน Golden Gate ที่ซานฟรานซิสโก) สัญลักษณ์ของเมืองลิสบอนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ แล้วเหตุผลของการสร้างสถาปัตยกรรมมุดลงดินนั้นก็เพื่อให้เกิดความกลมกลืนกับทัศนียภาพเมืองเก่าดั้งเดิมมากกว่าต้องการที่จะให้อาคารล้ำสมัยสูงโด่โดดเด้งจนอาจกลายเป็นทัศนอุจาดตาไปแทนได้

12308194_1249251708433647_6517968481153513705_o© MAAT / EDP foundation

14525037_1532374203454728_244965904189394238_o© MAAT / EDP foundation

MAAT ในส่วนของ Kunsthall ประกอบไปด้วยพื้นที่แสดงนิทรรศการต่างๆ 4 ส่วนที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน คือ 1. Oval Room 2. Main Gallery 3. Video Room และ 4. Project Room มีพื้นที่รวมกว่า 3,000 ตารางเมตร ซึ่งนี่เป็นการเปิดทำการเพียงเฟสแรกเท่านั้น พิพิธภัณฑ์เต็มรูปแบบจริงๆ มีแผนจะเปิดทำการทั้งหมดในเดือนมีนาคม 2017 ที่จะถึงนี้

สำหรับ MAAT นั้นเป็นโปรเจ็คที่ดำเนินงานโดย EDP Foundation ของ EDP Group (Energias de Portugal) บริษัทผลิตไฟฟ้าแห่งโปรตุเกส โดย MAAT นั้นตั้งอยู่ใจกลางองค์กร EDP Foundation ที่กินพื้นที่กว่า 38,000 ตารางเมตร ซึ่งบริเวณนี้ก็คือโรงผลิตไฟฟ้าเก่าแก่ของโปรตุเกสนั่นเอง

14291915_1500603873298428_581663525918380378_n© MAAT / EDP foundation

อันที่จริงถ้าถอยออกมามองในมุมกว้างจุดเด่นอีกอย่างของสถานที่แห่งนี้ก็คือการอยู่ร่วมกันอย่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และสมัยเก่าที่ถูกออกแบบมาให้ผสานกันอย่างลงตัว โดยตึกคลาสสิกที่ติดกับ Kunsthall นั้นก็คือ Electricity Museum (Lisbon) พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การไฟฟ้าแห่งโปรตุเกส ที่นำเอาโรงผลิตไฟฟ้าเก่า Tejo Power Station มารีโนเวทเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1990 แล้วก็มีการปรับโฉมครั้งล่าสุดให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ไปเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา

สำหรับตัวอาคาร Tejo Power Station ดั้งเดิมนั้นก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1908 และหยุดทำหน้าที่ไปเมื่อปี 1975 สถาปัตยกรรมคลาสสิกนี้เป็นตึกอิฐแดงแบบยุโรปที่สร้างขึ้นในสไตล์ Art Nouveau ตามสมัยนิยมในยุคนั้น ปัจจุบันตัวอาคารภายนอกและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยมและกลายมาเป็นนิทรรศการที่น่าสนใจในทุกวันนี้ แล้วนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป พิพิธภัณฑ์ Electricity Museum (Lisbon) แห่งนี้ก็จะถูกรวมให้เป็นส่วนหนึ่งของ MAAT – The Museum of Art, Architecture and Technology ด้วยนั่นเอง

13528603_1423260841032732_6539622662877500338_o© MAAT / EDP foundation

เสน่ห์ของความเก่าผสมใหม่นี้ยังถูกเชื่อมโยงด้วยการออกแบบพื้นที่สาธารณะภายนอกให้เป็นแหล่งพักผ่อนแห่งใหม่ที่โดดเด่นทางด้านภูมิสถาปัตยกรรมไปพร้อมกัน โดยการออกแบบส่วนนี้ก็ได้มือดีอย่าง Vladimir Djurovik มาร่วมสร้างแลนด์มาร์กใหม่ของโลกแห่งนี้ให้สมบูรณ์ขึ้นด้วย

01maat01© MAAT / EDP foundation

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening Hours: 12.00 – 20.00 (12pm – 8 pm) / Closed : Tuesdays

Admission: € 5  (เปิดให้ชมฟรีทุกวันอาทิตย์แรกของแต่ละเดือน)
หมายเหตุ : ราคานี้เป็นอัตราพิเศษฉลองเปิดพิพิธภัณฑ์ ค่าผ่านประตูนี้รวมทุกนิทรรศการแล้ว จะมีการคงราคานี้ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2017 และหลังจากมีการเปิดพิพิธภัณฑ์เต็มรูปแบบจะมีการปรับราคาใหม่อีกครั้ง

Location:
The Museum of Art, Architecture and Technology – MAAT
Av. Brasília, Central Tejo, 1300-598 Belém, Lisboa, Portugal
www.maat.pt

[su_gmap width=”1600″ address=”MAAT, Lisbon”]MAAT[/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

นักเดินทางที่เป็นทั้งนักเขียนและช่างภาพในตัว เขียนงานให้กับสื่อต่างๆ ในเมืองไทยมากมายตั้งแต่สารคดีหนักๆ, บทสัมภาษณ์, ไปจนถึงเรื่องดีไซน์และแฟชั่น แต่ผลงานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นบทความด้าน Food & Travel ที่เขียนถึงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เขาหลงรักอย่างญี่ปุ่น

Magazine made for you.