Life After Work ตักตวงความสุขก่อนเข้าบ้าน ‘รัชดา-วิภา-ลาดพร้าว’

ย่าน รัชดา-วิภา-ลาดพร้าว ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ CBD สำคัญของกรุงเทพฯ ที่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ขยายตัวแล้วยังเต็มไปด้วยแหล่งแฮงเอาท์บรรยากาศดีที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันกับที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา เพราะนอกจากทำเลดี เดินทางสะดวกได้หลากหลายเส้นทาง จากลาดพร้าวเข้ารัชดา ทะลุโชคชัยร่วมมิตรออกวิภาวดี ใครจะมาจากทางไหนก็มีร้านน่านั่งที่แทรกตัวอยู่ตามซอกซอยต่างๆ ดักอยู่ครบทุกทิศทาง ซึ่งวันนี้เราจะหยิบเอาแหล่งแฮงเอาท์ที่เหมาะสำหรับไปทิ้งตัวตักตวงความสุขหลังเลิกงานก่อนกลับบ้านในย่านรัชดา-วิภา-ลาดพร้าวมาให้ลองแวะไปชิลล์กันดู

The Fat Cow

รัชดา-ลาดพร้าว

แหล่งแฮงค์เอาท์ก่อนกลับบ้านที่น่าแวะร้านนี้เป็น craft beer & hamburger bar ที่เจ้าของร้านเป็นเชฟชาวต่างชาติลงมาดูแลความอร่อยทุกเมนูด้วยตัวเอง ร้านตกแต่งด้วยสไตล์ modern loft ที่มีความดิบๆ ฮิปๆ นิดๆ ทำให้ร้านไซส์เล็กขนาดไม่กี่โต๊ะร้านนี้มีบรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนแฮงเอาท์อยู่ร้านเพื่อน พอตกค่ำจะมีความคลาสสิกที่ดึงดูดเราเพิ่มขึ้นมาทันทีเพราะทุกโต๊ะจะจุดเทียนสลัวๆ ทำให้น่านั่งขึ้นไปอีกขั้น

เมนูเด็ดของที่นี่แน่นอนว่าเป็นแฮมเบอร์เกอร์สไตล์โฮมเมดโดยเฉพาะ signature menu อย่าง The Fat Cow แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัวที่แป้งสูตรโฮมเมดเนื้อนุ่มจะประกบกับเนื้อวัวย่างที่ฉ่ำกำลังเหมาะ แล้วทีเด็ดจะอยู่ที่เบค่อนรมควันที่เชฟทำเองที่ทำให้เบอร์เกอร์เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก แล้วอีกสิ่งที่ทำให้ร้านนี้ติดอยู่ในลิสต์โปรดของเหล่านักแฮงเอาท์ยามเย็นก็คือ craft beer นานาชนิดโดยเฉพาะ craft beer สัญชาติไทยที่มีให้เลือกอร่อยหลากหลายมากตั้งแต่เลเบลดังๆ ไปจนถึงเลเบลที่หากินได้ยาก

[su_gmap width=”1600″ address=”the fat cow”]google map Vidago Palace[/su_gmap]

Location : 765 ซอยลาดพร้าว 15 (ปากซอย) แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
Open : ทุกวัน 12.00-23.00 น.
Contact : 092 556 2876
Facebook : TheFatCowBKK


Method to My Madness

แหล่งแฮงเอาท์ยามพระอาทิตย์ตกที่ดิบแต่เท่ร้านนี้โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ fashion & bar ที่ผสมผสานระหว่าง vintage shop ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นไปจนถึงของตกแต่งสไตล์วินเทจต่างๆ เข้ากับ Vintage Bar ซึ่งที่มาของคอนเซ็ปต์นี้ก็เริ่มจากการรวมตัวของกลุ่มผู้จัดงาน pop-up market ชื่อดังอย่าง Cheap and Cheerful Open House Fest ที่อยากมีพื้นที่แฮงเอาท์ในแบบฉบับของตัวเองที่ไม่ซ้ำใครขึ้นบ้าง นอกจากแฮงเอาท์สเปซดีๆ แล้วที่นี่ก็ยังเปิดพื้นที่อิสระสำหรับ artist space ที่อยากมาร่วมแจมสร้างสรรค์งานในรูปแบบต่างๆ แบบไม่จำกัดนิยามใดๆ อีกด้วย ตั้งแต่ ดนตรีไม่จำกัดรูปแบบ, ศิลปะไม่จำกัดแขนง, กิจกรรมน่าสนไม่จำกัดไอเดีย ที่สำคัญทุกกิจกรรมที่ทางร้านคัดเลือกมาแจมที่นี่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ด้วย

[su_gmap width=”1600″ address=”method to my maddness 12/10 Lat Phrao”]google map Vidago Palace[/su_gmap]

Location : ปากทางลาดพร้าว (MRT พหลโยธิน) แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
Open : อังคาร-อาทิตย์ 17.00-01.00 น. / หยุดวันจันทร์
Contact : 085 356 3447
Facebook : methodbarbkk


2203 Rural Food & Homey Bar

ถึงแม้จะซ่อนตัวอยู่ในซอยลึกแต่แหล่งแฮงเอาท์เล็กๆ นี้ถือเป็นที่ชิลล์ระดับสเปเชี่ยลที่หลายคนบอกต่อ สโลแกนของร้านนี้ก็คือ Rural Food & Homey Bar ซึ่งสื่อถึงจานอร่อยที่คัดสรรคุณภาพวัตถุดิบอย่างดีตามสไตล์การทำอาหารแบบท้องถิ่นแต่นำมาปรุงความอร่อยอย่างพิถีพิถันในระดับมาตรฐานร้านอาหารสากล ตำรับที่นี่จะเป็นเมนูในรูปแบบ chef table ที่เชฟจะสร้างสรรค์เมนูขึ้นมาเฉพาะตัวรวมถึงเมนูพิเศษที่อาจมีขึ้นตามวัตถุดิบพิเศษที่ได้มาในช่วงนั้นๆ ด้วย จุดเด่นอีกอย่างที่หลายคนยกนิ้วให้ก็คือ beers & cocktails bar ที่เต็มไปด้วย craf beer หลากหลายชนิดจากทั่วโลกไปจนถึงคอกเทลล์สูตรพิเศษที่ได้ mixologist ฝีมือดีมาสร้างสรรค์เมนูให้ แล้วที่พิเศษยิ่งไปขึ้นอีกในค่ำคืนสุดสัปดาห์ที่นี่จะมีดนตรีแจ๊สวงเล็กจากนักดนตรีฝีมือเยี่ยม (ที่มักเป็นเพื่อนๆ ของเชฟ) มาบรรเลงเพลงดีๆ สร้างบรรยากาศยามค่ำคืนให้ครึกครื่นน่าทิ้งตัวไปกับความสุขกันอีกด้วย

[su_gmap width=”1600″ address=”2203″]google map Vidago Palace[/su_gmap]

Location : 74/78 ซ.วิภาวดีรังสิต 16/10 (โชคชัยร่วมมิตร) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
Open : พฤหัสบดี-อังคาร 17.30-24.00 น. / หยุดวันพุธ
Contact : 095-598-9554
Facebook : 2203bkk
Website : www.2203lovingyou.com


PiZziCaTo Bar & Restaurant

เห็นโลโก้ร้านไอเดียเจ๋งๆ (แผ่นเสียง + พิซซ่า) ก็จะรู้ได้ทันทีว่าร้านนี้มีคอนเซ็ปต์น่านั่งอย่างไร เสน่ห์ของร้านเล็กๆ นี้ก็คือแหล่งแฮงเอาท์ของคนรักดนตรียุค 90 ที่แรกเริ่มเดิมทีเปลี่ยนชื่อมาจากร้านเดิม 1990’s นั่นเอง นอกจากเครื่องดื่มดีๆ แล้วแน่นอนว่าเมนูเด่นของที่นี่ก็คือพิซซ่าหน้าต่างๆ ในสไตล์โฮมเมดที่ไม่เหมือนใครให้แฮงเอาท์กันในบรรยากาศเหมือนทำพิซซ่ากินอยู่บ้านเพื่อน ทีเด็ดที่สุดที่ไม่อาจปฎิเสธได้ก็คือบรรยกาศชิลๆ ของดนตรีดีๆ ที่ที่นี่คัดสรรมาเป็นพิเศษในแต่ละค่ำคืนให้เราได้นั่งชิลล์ในบรรยากาศเป็นกันเองอย่างสนุกสนาน

[su_gmap width=”1600″ address=”PiZziCaTo bar & restaurant”]google map Vidago Palace[/su_gmap]

Location : ปากทางลาดพร้าวซอย 10 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
Open : ทุกวัน 18.00-24.00 น.
Contact : 085 058 9297
Facebook : pizzicato


Stand Alone Coffee Bar

คาเฟ่ที่เป็นแหล่งแฮงเอาท์ยามค่ำคืนได้ดีไม่แพ้บาร์หรือร้านอาหารไหนๆ ตัวร้านตกแต่งในสไตล์ industrial loft ที่ดิบแต่เท่ กาแฟนั้นทางร้านใส่ใจตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดสายพันธุ์ดีที่มีให้เลือกหลากหลายแหล่งมาทำเมนูกาแฟให้ได้ลองชิมกันหลากหลายรูปแบบเช่นกัน ตั้งแต่ espresso ช็อตเด็ดไปจนถึงกาแฟดริปในรูปแบบต่างๆ และเครื่องดื่มเย็นสูตรที่ทางร้านสร้างสรรค์ขึ้นพิเศษ แต่ที่แนะนำนั้นต้องให้ลองชิม Signature ที่ชื่อเดียวกับร้านว่า Stand Alone ซึ่งเป็นน้ำแช็งที่ทำจากช็อตกาแฟเข้มข้นทานพร้อมกับนมสดที่รินได้ตามชอบ นอกจากนี้ที่ร้านก็ยังมีเบเกอร์รี่ไปจนถึงอาหารจานเบาๆ ในสูตรโฮมเมดให้อร่อยคุ่กันอีกด้วย

[su_gmap width=”1600″ address=”Stand Alone Coffee Bar”]google map Vidago Palace[/su_gmap]

Location : ซ.วิภาวดีรังสิต 20 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
Open : ทุกวัน 09.00-23.00 น.
Contact : 089 818 5511
Facebook : Standalonecoffeebar


Photography by Sharp Jaruwat P


Sponsored by

MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา โครงการจาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ในศูนย์กลางย่านธุรกิจครบวงจรที่ขยายตัวต่อเนื่องจากพระราม 9 ยาวมาจนถึงฝั่งรัชดา-ลาดพร้าว สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น รัชดา ลาดพร้าว หรือวิภาวดี อีกทั้งในอนาคตกำลังจะมีโปรเจกต์ใหญ่ยักษ์จาก BTS และ G-Land ที่จะพัฒนาที่ดิน 48 ไร่ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งโครงการบางกอกโดม ตรงข้ามแดนเนรมิตเดิมให้เป็น Mixed Use Complex ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) และรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) สู่โซนนอกเมืองที่ขยายไปจนถึงสมุทรปราการ และสายสีส้มที่จะยาวไปถึงมีนบุรี ทำให้ถือเป็นทำเลที่น่าลงทุน

โครงการ MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

  • Social lobby – Universal Access ( lift ) double volume height
  • Co-working space / Library area
  • Steam & Sauna
  • Gym
  • Yoga Area
  • Swimming pool
  • Pet-friendly (เป็นโครงการที่เลี้ยงสัตว์ได้)
  • Roof Top BBQ Garden (พร้อมอุปกรณ์)

ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท* เปิดให้ชมห้องตัวอย่างวันที่ 8 มิ.ย. และพรีเซลล์ 24-25 มิ.ย.นี้ ที่สำนักงานขาย
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 116 1111 หรือ https://goo.gl/aiIePD ซึ่งใครที่ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของโครงการ จะได้รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท*

นักเดินทางที่เป็นทั้งนักเขียนและช่างภาพในตัว เขียนงานให้กับสื่อต่างๆ ในเมืองไทยมากมายตั้งแต่สารคดีหนักๆ, บทสัมภาษณ์, ไปจนถึงเรื่องดีไซน์และแฟชั่น แต่ผลงานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นบทความด้าน Food & Travel ที่เขียนถึงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เขาหลงรักอย่างญี่ปุ่น

Magazine made for you.