Hill of Buddha สักการะพระใหญ่ในทุ่งลาเวนเดอร์

เราชาวไทยอาจจะเคยชินกับการเห็นพุทธศาสนสถานที่ มีความงดงามตระการตา มีสีสันที่สดใส และมีสิ่งประดับตกแต่งมากมายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพุทธสถานบ้านเรา หรือคุ้นตากับความอลังการของพระใหญ่ที่มีอยู่มากมายหลายแห่งในไทย และในต่างประเทศ เช่น พระใหญ่เทียนถานของฮ่องกง พระใหญ่หลิงซานต้าฝอริมทะเลสาบไท่หูเมืองอู๋ซี หรือ พระไวโรจนะพุทธะที่สูงที่สุดในโลกของมณฑลเหอหนานของประเทศจีน

และเมื่อนึกถึงพระใหญ่ของญี่ปุ่น หลายคนคงคุ้นตากับภาพไดบุตสึแห่งคามาคุระ พระใหญ่อายุกว่า 700 ปีที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น แต่ขึ้นเหนือไปจากเมืองคามาคุระ 1,200 กิโลเมตรที่ฮอกไกโด มีไดบุตสึอีกองค์หนึ่งที่ถูกประดิษฐานในรูปแบบที่แตกต่างออกไป องค์พระของที่นี่ไม่โอ่อ่าตระหง่านเด่นเช่นพระใหญ่ชื่อดังแห่งไหนๆ แต่กลับซ่อนองค์อยู่ใต้เนินดอกลาเวนเดอร์ ดอกไม้ที่หมายถึงความสงบ ความบริสุทธิ์ และยังเชื่อกันว่ามีความหมายลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ

Hill of Buddha ตั้งอยู่ที่สุสาน Makomanai Takino Reien (真駒内滝野霊園) เมืองซัปโปโร ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น จุดประสงค์หลักของการออกแบบที่นี่ คือการสร้างสถานสักการะขึ้นใหม่โดยการปรับพื้นที่แวดล้อมให้กับพระพุทธรูปองค์ใหญ่เก่าแก่ที่มีชื่อว่า Atama Daibutsu ซึ่งมีความสูง 15 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1,500 ตัน

[su_tabs][su_tab title=”Location”]

[su_gmap width=”1600″ address=”真駒内滝野霊園”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

 

แต่เดิม รูปปั้นพระพุทธรูปองค์นี้ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าอย่างโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน เมื่อมองมาท่ามกลางที่โล่งแจ้งนั้น อาจมีความรู้สึกแข็งกระด้างและแห้งแล้งไปบ้าง จึงได้มีความคิดที่จะปรับปรุงพื้นที่โดยรอบเพื่อให้เกิดความรู้สึกสงบจิต และ ประทับใจไปพร้อมกัน โปรเจ็กต์นี้จึงได้ ทะดะโอะ อันโดะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่เรียบง่าย และเน้นความเป็นหนึ่งเดียวกันของอาคารและธรรมชาติ มาออกแบบให้ศาสนสถานนี้มีชีวิตชีวาขึ้นได้ด้วยความเรียบง่ายของดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์

หากมองจากด้านนอก เราจะเห็นเพียงแค่เศียรของพระพุทธรูป ที่โผล่ออกมาเล็กน้อย โดยมีเนินเล็กๆ เป็นขั้นบันได ที่รายล้อมไปด้วยดอกลาเวนเดอร์กว่า 150,000 ต้น เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็จะพบกับทางเดินความยาวประมาณ 40 เมตร ที่นำไปสู่พระพุทธรูป โดยความตั้งใจในการออกแบบนั้นเป็นการใช้กับระยะทางกับสิ่งที่มองไม่เห็นมาสร้างความรู้สึกให้ผู้ที่กำลังเดินเกิดการคาดเดาว่าสิ่งที่จะเจอต่อไปนั้นคืออะไร

จากจุดเริ่มต้นภายนอกที่เราเห็นเพียงเศียรของพระพุทธรูปเท่านั้น เมื่อเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ องค์พระก็จะค่อยๆ ปรากฏให้เห็นมากขึ้น จนเมื่อสุดทาง เมื่อผู้มาสักการะแหงนหน้ามองขึ้นไป ก็จะเห็นพระพุทธรูปครบทั้งองค์

ทะดะโอะ อันโด เป็นสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่ไม่ได้เรียนจบด้านสถาปนิก แต่ค้นคว้าด้วยตัวเองจากการอ่านหนังสือและออกเดินทางไปดูตึก อาคาร ตามสถานที่จริง ทั้งในประเทศญี่ปุ่น อเมริกาและอีกหลายประเทศในยุโรป

งานออกแบบที่มีชื่อเสียงของอันโดะมีอยู่หลายแห่งทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ผลงานที่โด่งดังและเกี่ยวข้องกับศาสนาอีกงานหนึ่งของเขา คือ Church of the Light (วิหารแห่งแสง) ที่แถบชานเมืองอิบารากิของโอซาก้า อาคารที่มีรูปร่างเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมทึบ แต่เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว ช่องว่างระหว่างคอนกรีตที่มีการทำมุมและจัดวางเป็นอย่างดี ทำให้แสงสะท้อนเข้ามาเป็นรูปร่างของไม้กางเขนในส่วนกลางของห้อง ซึ่งแสงแดดที่กระทบลงบนผนังคอนกรีตเปลือยนั้น ก็จะแตกต่างกันไปตามแสงในแต่ละช่วงเวลา

โดยในช่วงแรกๆของการก่อสร้างนั้นก็เกิดความล่าช้าเนื่องด้วยข้อจำกัดในด้านงบประมาณ จนอันโดะถึงกับเสนอว่าไม่ต้องมีหลังคาเลยไหม(เพื่อประหยัดงบ) จนผู้รับเหมาถึงกับจะบริจาคหลังคาให้ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่จำเป็นเพราะอันโดะใช้วิธีการออกแบบของเขาแก้ปัญหานี้ได้ในท้ายที่สุด