พัทยา 3 วัน 2 คืนกับที่พักสุดฮิตพร้อมแหล่งเช็คอินสุดชิลล์

Brought to you by Veranda Resort Pattaya


เขตปกครองพิเศษเมืองพัทยา เมืองที่มีขนาด 208.10 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอาจเป็นที่พำนักสุดท้ายของฝรั่งเกษียณอายุ คนเมืองหนาวที่หนีมาพักร้อน คนกรุงเทพที่หนีความวุ่นวายในเมืองหลวง และอีกหลายชีวิตที่มาหางานทำในเมืองที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้

ณ มุมหนึ่งของพัทยา นอกจากไนท์ไลฟ์ พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ วอล์คกิ้งสตรีท ฯลฯ ที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย พัทยายังแฝงเร้นด้วยความสงบ และร้านอาหารที่น่าสนใจ เพียงแต่แสงนีออนยามค่ำคืนของพัทยาอาจแรงจนแยงตาให้เรามองไม่เห็น

เราออกจากกรุงเทพบ่ายวันเสาร์ วิ่งถนนสาย 3 ยาวๆ แล้วค่อยกลับมาเส้นสุขุมวิท เพียง 2 ชั่วโมงก็ถึงที่พักตรงนาจอมเทียน Veranda Resort Pattaya

[su_gmap width=”1600″ address=”Veranda Resort Pattaya”][/su_gmap]

เปิดเข้าไปในห้องพัก เจอตุ๊กตาหมึกสีหวานที่เห็นแล้วอยากจะเอากลับไปกอดที่บ้านมาก ผมนอนทิ้งตัวบนเตียงนุ่ม วางความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางบนฟูกหนา จนกระทั่งเผลอหลับไป

004-1

OUM_9999_3

ระหว่างรอเวลาอาหารเย็น ผมเดินสำรวจส่วนต่างๆ ของ Veranda Resort Pattaya จนไปเจอชั้นบนสุดของโรงแรมที่ติดกับสระว่ายน้ำริมหาด–ห้องอาหาร I Sea Sky ส่วนตัวชอบชื่อนี้มาก “ฉัน/ทะเล/ท้องฟ้า” เพราะ ณ จุดที่ยืนอยู่ ผมได้สัมผัสทุกอย่างที่ว่ามา ทะเลยามพระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าที่ถูกย้อมเป็นสีชมพูอมส้ม เสียดายที่เป็นคนโสด ถ้ามากับแฟนผมคงจะฟินกว่านี้ เพราะไม่ไกลจากจุดที่ผมยืน มีทางเดินที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารให้ไปยืนกอดกันแบบ แจ็คกับโรส ในหนังเรื่องไททานิค

_MG_9604

IMG_4633

IMG_4613

คืนแรกเราเลยกินอาหารที่นี่ สั่งเมนูหมึกนึ่งมะนาว (450 บาท) เนื้อแน่นแบบไทย เด็ดดวงถึงรสถึงชาติ มีทีเด็ดที่ใช้หมึกจากชาวประมงท้องถิ่น ตามมาด้วยสแกลลอปฮอกไกโดย่าง (450 บาท) ที่มากับเดรสซิ่งหอยตลับ อีกทั้งในจานยังมีไข่มุกรสกะทิและตะไคร้ที่ใช้วิธีการทำอาหารแบบ molecular gastronomy อีกด้วย ต่อด้วยพาสต้าต้มยำที่มาในชื่อ Angel Hair Tom Yam Zap & Zing (280 บาท) เส้น capellini ในซุปต้มยำแบบขลุกขลิกที่มีเนื้อล็อบสเตอร์แน่นๆ และโฟมกะทินุ่มลิ้น จานสุดท้าย Pork Cutlet (420 บาท) สไตล์สเปนที่เคลือบด้วยสมุนไพรนานาชนิด เสิร์ฟพร้อมกับ gnocchi ไส้สมุนไพร แครอทปูเร่และซอสไวน์แดง

OUM_0349

IMG_4638

หลังจากอิ่มทั้งอาหารและบรรยากาศของลมหนาวหลงฤดู แม้จะอยากอยู่ต่ออีกสักพัก แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความหนาวของลมทะเล ผมเลยรีบกลับมาหาน้ำอุ่นๆ เตียงนุ่มๆ แล้วทิ้งตัวลงนอนโดยพยายามไม่นึกถึงการงานที่คั่งค้าง

“ขอลืมไปก่อนแล้วกันนะ” ผมบอกตัวเองก่อนเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์


วันอาทิตย์, ความกดอากาศต่ำจากเมืองจีนมาเยือนพร้อมกับสายฝนยามเช้า

ผมแอบลงมาซัดอาหารเช้าคนเดียวก่อน เพราะชาวคณะยังคงหลับอยู่บนเตียงนุ่ม ที่โซน The Deck ได้จัดมุมอาหารเช้าใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำของโรงแรม ซึ่งเราจะได้ยินเสียงคลื่น และเสียงน้ำจากส่วนที่โรงแรมออกแบบคล้ายน้ำตกที่ไหลลงมาระหว่างทางขึ้นไปสระว่ายน้ำ

ผมเดินตักตามใจทั้งชีส แฮม ซาลามี่ เบคอน ผักสลัดราดน้ำมันมะกอกเป็นจานแรก จานที่สองเป็นอาหารไทยที่เราคุ้นเคยและรสชาติก็ไม่ได้เอาใจแขกต่างชาติ เชฟเลือกที่จะทำให้รสจัดสมเป็นอาหารไทย ไม่ว่าจะแกงกะทิไก่ ผัดขึ้นฉ่ายปลา (ชอบที่ไม่ได้ใช้ปลาดอลลี่ไร้รสชาติ แต่เป็นเนื้อปลาทะเลสักชนิด) และจานสุดท้ายคือออมเล็ตชีสเยิ้มที่พ่อครัวทำให้แบบสดๆ เนียนมากครับ บอกเลยว่าชอบออมเล็ตของ Veranda Resort Pattaya มาก และยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ลอง คิดว่าพรุ่งนี้เช้าต้องกลับมาซ้ำอีก

verab02

_MG_9977

อิ่มแล้วผมก็กลับมาปลุกเพื่อนๆ ให้ลงไปกินมื้อเช้าบ้างเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันกิน เนื่องจากอาหารเช้าเสิร์ฟถึง 11 โมงเท่านั้น หลังปลุกเพื่อนแล้ว ผมก็นอนจนเกือบเที่ยงซึ่งเป็นช่วงที่ลมหนาวเริ่มจะหลีกหนีเพราะพ่ายแพ้ต่อแสงแดดยามเที่ยงของพัทยา แต่กว่าจะขุดตัวเองออกมาจากเตียงได้ เพื่อนก็เตรียมตัวทำภารกิจต่อเรียบร้อยแล้ว และวันนี้เราตั้งใจว่าจะไปกินอาหารให้ครบทุกร้านตามที่จดมาให้สำเร็จ


ร้านแรกอยู่ไม่ไกลจากที่พัก Tea Factory ร้านน้ำชาที่อยู่ในโครงการ A’ La Campagne (อะลาคอมปาณย์ ภาษาฝรั่งเศส หมายถึง ณ ที่ชนบท) บรรยากาศในโครงการเหมือนไวนารี่ แถวนาปาวัลลี่ (แหล่งปลูกไวน์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย)

teafac04

teafac02

tea fac03

ภายในร้านเป็นอาคารปูนเปลือยกรุด้วยกระจก คุมโทนสีและรายละเอียดต่างๆ อย่างลงตัว แต่ที่น่าสนใจที่สุดในร้านไม่ใช่การตกแต่งใดๆ แต่มุมหนึ่งในร้านที่ชื่อ TEA LAB ที่มีชาให้ลองชิมหลายสิบชนิด ทั้งประเภท Single Origin, Blend Tea และ Decaf Flower Tea

ชาที่เราสั่งมี ‘Matcha Ike no Shiro’(250 บาท) ชามัทฉะจากญี่ปุ่นที่พนักงานมาชงสดๆ ให้ที่โต๊ะ หรือเราอยากจะชงเอง โดยมีพนักงานคอยให้คำแนะนำก็ได้ รสชาติดีสมราคาเลยครับ

ชาตัวต่อมาเป็น ‘White Mary-Rose Raspberry’(120 บาท) ชาตัวนี้มาจากเยอรมัน หอมหวานแบบไม่ต้องเติมน้ำตาล และชาตัวสุดท้าย เป็นชาสูตรของทางร้าน ‘La Vie En Rose’(100 บาท) ชาดำกลิ่นกุหลาบที่เสิร์ฟมาในขวดแก้วสวยงาม กลิ่นหอมหวานและน้ำแข็งเย็นๆ ช่วยเพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลายให้ร่างกายได้ดีทีเดียว

teafac08

teafac05

teafac09

มีชาก็ต้องมีขนมหวาน ‘Sakura mousse’(130 บาท) มูสเค้กสีชมพูหน้าตาสวย รสเหล้าบ๊วย เปรี้ยวๆ หวานๆ มีกลิ่นของดอกซากุระบางๆ และมีดอกซากุระวางอยู่บนหน้าเค้ก แต่ไม่ได้มีไว้ประดับเฉยๆ นะครับ เพราะดอกซากุระยังให้รสเปรี้ยวโดดแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี รู้สึกได้ถึงความตั้งใจของร้าน ที่อยากเสิร์ฟของอร่อยๆ ให้ลูกค้าจริงๆ

teafac07

[su_gmap width=”1600″ address=”TEA FACTORY, Pattaya”][/su_gmap]


ออกจากนาจอมเทียนไปตามถนนสุขุมวิทเลี้ยวเข้าถนนทัพพระยาเพียงไม่นานก็ถึงร้าน Sketch Book Art Café คาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะของเจ้าของร้านและอดีตนักเรียนศิลปะ (ที่นี่เปิดเป็นโรงเรียนสอนศิลปะด้วย) ด้านหน้าของคาเฟ่เป็นสวนต้นไม้ที่ต้นไม้เยอะจนเขียวครึ้ม เหมาะจะนั่งชิลดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ในบ่ายวันอาทิตย์

sket01

sket02

sket04

_MG_0332

ว่าแล้วก็สั่ง ลาเต้เย็นวิปครีมโรยผงมัจฉะ (155 บาท) และน้ำผึ้งมะนาวใบโหระพาปั่น (85 บาท) รสชาติอาจไม่แตกต่างจากร้านกาแฟอื่นๆ สักเท่าไหร่ แต่บรรยากาศดีจนอยากนั่งแช่อยู่ที่ร้านกับหนังสือสุดโปรดสัก 2 ชั่วโมงหรือทั้งวันเลยยิ่งดี แต่ด้วยภารกิจตะลุยร้านอาหารยังเหลืออีกหลายร้าน ผมจึงจำใจต้องเดินทางต่อ

sket0

sket05

[su_gmap width=”1600″ address=”SKETCH BOOK ART CAFÉ, Pattaya”][/su_gmap]


ขับรถมาไม่ไกลเท่าไหร่บนถนนทัพพระยาแล้วเลี้ยวเข้าซอย 5 จะเจอร้านป้ายร้าน Mike’s Mexican ร้านอาหารเม็กซิกันรสชาติดี ที่มีสาขาในญี่ปุ่นถึง 8 สาขา! ก่อนมาเปิดในเมืองไทยอีก 2 สาขา คือที่ภูเก็ตและพัทยานี่เอง

การตกแต่งร้านอาจดูบ้านๆ แต่รสชาติอร่อยเหมือนได้กินที่ Texas! เพราะทุกเมนูทำสดใหม่ ไม่มีเอาของแช่แข็งหรือเปิดจากกระป๋องอาหารสำเร็จรูป แถมพริกที่ใช้ในร้านก็นำเข้าจากอเมริกาเกือบทั้งหมด

mike02

mike03

mike01

เราสั่งอาหาร SET E(250 บาท) คือ Wet Burrito Chicken ที่ราดซอสสูตรของร้านกับชีสเยิ้มๆ ไส้อัดแน่นเต็มคำ แค่กินชิ้นเดียวก็อิ่มแน่น เพราะ Burrito ชิ้นใหญ่และยาวถึง 12 นิ้ว! แถมเสิร์ฟพร้อมถั่วแดงและข้าวแบบเม็กซิกัน อาหารอีกอย่างที่พ่วงมาในเซ็ท คือ ทาโก้กรอบคาร์นิตัส (Carnitas) หรือหมูนุ่มที่ฉีกเป็นชิ้นๆ ผักกาดแก้ว ซัลซ่าและชีส เป็นเมนูที่ทุกคนออกปากชมว่าอร่อยจริงๆ ราคาสมเหตุสมผล ไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ

นอกจากจะมีจานใหญ่ ๆ แล้วยังมี Chip ข้าวโพด กินกับซัลซ่าและกัวคาโมเล่(160 บาท) ที่ทำสดๆ ทีละออเดอร์ จนทุกคนแย่งกันกินจนไม่เหลือติดถ้วย แนะนำให้มาลองครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบและอยากลองอาหารเม็กซิกัน

mike04

mike05

[su_gmap width=”1600″ address=”MIKE’S MEXICAN, Pattaya”][/su_gmap]


กินมาเกือบทั้งวัน ขอแวะพัก (พุง) ที่จุดชมวิวเข้าพระตำหนักก่อน ตรงที่มีป้าย P A T T A Y A อันใหญ่ ซึ่งเราสามารถไปถ่ายรูปดูวิวเมืองพัทยาได้

ptty

เรี่ยวแรงที่สะสมมาใกล้หมดเต็มที เลยตัดสินใจกลับพักมาที่ Veranda Resort Pattaya นอนชิลๆ ริมทะเลจนหายเหนื่อย ก็ขึ้นลิฟท์มาที่ห้องอาหาร I Sea Sky ชั้น 4 แต่รู้สึกอยากรับลมทะเลในที่สูง เลยเดินขึ้นไปอีกชั้นซึ่งเป็นโซน The Jetty ที่แปลว่าเทียบท่าเรือ ที่นั่งทานอาหารตรงโซนนี้จัดให้อยู่ระดับต่ำกว่าพื้น โดยอยู่ระดับเดียวกับสระน้ำเล็กๆ ที่จัดแสงและองค์ประกอบไว้อย่างสวยงามหมดจด จนอยากจิบเบียร์เย็นๆ สักแก้ว

IMG_4640

OUM_9074

OUM_9095

จากโต๊ะมองทะลุกระจกที่กั้นริมระเบียงเห็นทะเล เสมือนนั่งมองผ่านกระจกหัวเรือ ทะเลที่เห็นชวนให้เราสั่ง Seafood ชุดใหญ่ (1,500 บาท) มาแชร์กินกัน มีทั้งล็อบสเตอร์, กุ้งกุลาดำ, หอยนางรม ,กราแตงหอยแมลงภู่, หมึกย่างเกลือพริกไทย, ปลากะพงเทมปุระ เสิร์ฟพร้อมการ์เด้นสลัด และทรัฟเฟิลฟรายส์ ทั้งอร่อยและสดมาก จานต่อมาเป็นเมนูคลาสสิกอย่างปูนิ่มทอดกระเทียม (410 บาท) ที่แย่งกินกันหมดจานอย่างรวดเร็ว และจานสุดท้ายผัดไทยกุ้งตัวเบิ้ม (390 บาท) ผมอยากบอกว่าร้านนี้ทำผัดไทยอร่อยมาก อร่อยกว่าเจ้าดังๆ ที่คนชอบไปซื้ออีก เส้นจันท์ก็มาจากจันทบุรีโดยตรง ถ้าใครได้มาที่นี้อยากให้ลองพิสูจน์ว่าผมไม่ได้โกหกคุณแต่อย่างใด

กินจนปากมันแน่นพุงพร้อมจิบเบียร์สู้ลมหนาว มองดูนาฬิกาก็ได้เวลาไปนอนซุกผ้าห่มให้ตัวอุ่นก่อนจะกลับไปสู้ชีวิตในเมืองหลวงอีกครั้ง

หลังจากตื่นนอนตอนเช้าวันจันทร์ ก่อนจะเช็คเอาท์ออกจากที่พัก เราแวะร้านที่อยู่นอกแผนการเดินทาง ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ข้างๆ Veranda Resort Pattaya ได้แก่ คาเฟ่ริมทะเล และร้าน Food Truck ที่ขายเบอร์เกอร์

DSCF7063

Burgler Burger ร้านฟู้ดทรัคเบอร์เกอร์อันดับต้นๆ ของกรุงเทพที่เคยจอดประจำอยู่ทองหล่อ ก่อนมาประจำการอยู่ริมหาดแห่งนี้

DSCF7073

DSCF7100

ที่ร้านมีเมนูเบอร์เกอร์สูตรเด็ดอยู่ 2 เมนู คือ The Double Cheese Wagyu(229 บาท) เบอร์เกอร์เนื้อวากิวชิ้นโตที่อัดชีสคูณสอง และหอมใหญ่ย่างจนหวานเลื่อม และอีกเมนู Tender Juicy Pork Bar.Be.Kill(189 บาท) เบอร์เกอร์บาร์บีคิวหมูที่มีเนื้อหมูและสัปปะรดย่างจนหวานฉ่ำ หม่ำหนึ่งคำหวานหอมไปทั่วทั้งปาก แถมชิ้นก็ใหญ่มากแบ่งกันกินสองคนยังได้เลย แต่กินคนเดียวตามคอนเซปท์ร้าน ‘Feel Good to be Bad’ รู้สึกได้เลยว่าต้องอ้วนแน่ๆ แต่แล้วไงใครแคร์

ผมชอบเบอร์เกอร์เนื้อมากครับ เนื้อวัววากิวบดที่ปั่นเป็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่จนเกือบขากรรไกรค้างถ้าจะกินอย่างเต็มปากเต็มคำ เนื้อที่ชุ่มฉ่ำไม่แห้งเปิดเผยความหวานของเนื้อคุณภาพดี เข้ากับซอสเบอร์เกอร์ที่ถูกคิดให้เข้ากันและแป้งขนมปังนุ่มที่ทำสดใหม่วันต่อวัน เสียดายที่ผมกินมื้อเช้าของโรงแรมเยอะไปหน่อย เลยกินได้แค่ชิ้นเดียว

นอกจากเบอร์เกอร์ยังมีเบียร์นำเข้าให้เลือกอีกมาก วันนี้ได้เบียร์ Yoho Brewing Suiyoubi No Neko (250 บาท) คาร์ฟเบียร์จากญี่ปุ่นมาดื่มแกล้มคู่กับแฮมเบอร์เกอร์

กินไป มองทะเลไป ฟังเสียงคลื่นไป ชิล… ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เลย

DSCF7096

อีกร้านในพื้นที่หาดเดียวกัน Skoop Beach Café คาเฟ่ริมหาดที่มีของหวานให้เลือกเยอะเหลือเกิน ก็เลยสั่งมาแบบไม่บันยะบันยัง Mix Berries Soda(145 บาท), แซนวิชไอศกรีมที่เป็นข้าวพองอบกรอบ (85 บาท) และสุดท้าย วาฟเฟิลกับไอศกรีม(185 บาท) เมนูที่สั่งมาดูเหมือนจะเบสิค แต่พอกินแล้วรู้เลยว่าใช้วัตถุดิบดีๆ มาทำ ขนมดี วิวดี ถ่ายรูปสวยอวดเพื่อนได้ และน่าชวนเพื่อนมาชิลเวลาแวะมาพัทยาอย่างยิ่ง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

IMG_4821

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ถ้าต้องให้ผมเลือกมาสักเมนูให้เป็นเมนูที่เหมาะกับชายหาดจอมเทียนที่แดดบ่ายไม่ร้อนแรงจนเราสามารถนั่งรับลมทะเลได้ คงเป็น Mix Berries Soda เพราะนอกจากหน้าตาจะสวยแล้ว เครื่องยังแน่นทั้งผลไม้สด และ Fruits Pop ไอศกรีมผลไม้สด หน้าตาน่ารัก (แถมอร่อยด้วย) บวกกับความเย็นซ่าของโซดาที่ทำให้สดชื่น แก้วนี้จึงเป็นเมนูโปรดของผมในการดื่มพักผ่อนในวันชิลๆ วันสุดท้ายของทริปนี้ เสียดายอย่างเดียวคือ ตอนกินเบอร์เกอร์ไม่ได้สั่ง Strawberry & Cream Shake (120 บาท) ที่น่าจะเข้ากับเบอร์เกอร์สุดๆ ตามแบบฉบับการกินเบอร์เกอร์ของคนอเมริกัน เพราะสองสิ่งนี้เป็นของคู่กันไม่ต่างกับมะม่วงและพริกเกลือ (ว่าไปนั่น!)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

[su_gmap width=”1600″ address=” Skoop Beach Café”][/su_gmap]


มาถึงบรรทัดนี้ พัทยาที่ใครมองว่าเป็นเมืองแห่งบาป คงรู้แล้วว่าพัทยาในวันนี้มีมากกว่านั้น ยังมีสถานที่ดีๆ ให้เราพักผ่อนหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่

ไม่ว่าสถานที่สงบๆ อย่าง Veranda Resort Pattaya ร้านอาหารต่างๆ ที่น่าแวะมาลองสักครั้ง แล้วคุณจะมองเห็นพัทยาเปลี่ยนไปตลอดกาล


Brought to you by Veranda Resort Pattaya

1 Comment

  • boyy

    ใช้กล้องอะไรครับเนี่ย สีสวยมาก

Comments are closed.

Magazine made for you.